จะนะ-สงขลา คัดกรองคนไทย-เมียนมาร์ครั้งใหญ่ พร้อมปิดโรงงาน 14 วัน
ในขณะนี้สถานการณ์โควิดจังหวัดสงขลา ของพื้นที่อ.จะนะในกลุ่มของโรงงาน ทำให้หลายหน่วยงานในพื้นที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหลังจากตรวจเชิงรุก
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลจะนะและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจะนะนั้น ได้คัดกรองพนักงานในโรงงานในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ไปทั้งสิ้นมากถึง 452ราย (โรงงานนี้คนงานพม่ามี 1500 ราย คนไทยมี 1400 ราย) ใน 452 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 79 ราย ตรวจพบเชื้อ 6 รายเป็นคนไทย(ภูมิลำเนาอำเภอเมืองสงขลา) 2 ราย และเป็นคนเมียนมาร์ 4 ราย อัตราการพบเชื้ออยู่ที่ 7.1%ใน 452 ราย เป็นกลุ่มสุ่มมาตรวจจากแคมป์คนงานทุกแถว และในไลน์ผลิต จำนวน 375 ราย ตรวจพบเชื้อ 26 ราย เป็นคนเมียนมาร์ทั้งหมด อัตราการพบเชื้ออยู่ที่ 6.9% จากข้อมูลจะเห็นได่ว่า ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย กับกลุ่มสุ่มตรวจทั่วไป มีอัตราการพบเชื้อที่แทบจะไม่แตกต่างกัน
นั่นหมายความว่า ทุกคนในโรงงานมีความเสี่ยงหากนำข้อมูล 452 ราย มาแจกแจง จะพบว่า เป็นคนไทย 102 ราย พบการติดเชื้อ 2 รายจากกลุ่มเสี่ยงสูง ไม่พบจากกลุ่มสุ่มทั่วไป อัตราการพบเชื้อในคนไทยคือ 2% ส่วนคนเมียนมาร์เข้ารับการตรวจ 350 ราย พบเชื้อ 30 ราย อัตราการพบเชื้อในกลุ่มคนเมียนมาร์คือ 8.6% คือพบการระบาดในกลุ่มคนเมียนมาร์มากกว่าคนไทย 4.3 เท่า ทั้งนี้ที่พักอาศัยรวมมีความแออัดสูง มีการทำงานด้วยกันของทั้งคนไทยและคนเมียนมาร์ ทางการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เพื่อกำหนดมาตรการดังนี้
ข้อเสนอการยุติการระบาดของโรคโควิด-19 โรงงานสยามอินเตอร์ฯ คือ การปิดโรงงาน 14 วันและจะมีการลงพื้นที่ไปประเมินและรายงานเป็นระยะ การเข้มงวดการกักโรคทั้งคนไทยและเมียนมาร์เพื่อไม่ให้มีการระบาดในชุมชน คนงานไทยจะได้รับการตรวจ Swab ในวันที่ 17-18 พ.ค.2564 และดำเนินการตามมาตรการต่อไป สำหรับคนเมียนมาร์จะถูกกักตัวในบ้านพัก 30 วัน Swab คนที่มีความเสี่ยง และมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ดูแลโดยโรงพยาบาลจะนะ และจะมีการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ทุกคนในโรงงาน เพื่อเป็นการยุติการระบาดระลอกใหม่
อ้างอิง : นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ