สรรพสามิตสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนและสินค้าหนีภาษี
วันที่ 15 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่จาก 5 หน่วยงานทั้งสายตรวจสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 สายตรวจสรรพสามิตพื้นที่สงขลา ชุดสืบสวนปราบปรามกรมศุลกากร ศุลกากรภาค4 และชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อนตำรวจภูธร ภาค 9 ภายใต้การสั่งการของ นายจรูญ ราชกิจจา ผอ.สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ สรรพสามิตพื้นที่สงขลา ได้สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนและสินค้าหนีภาษีทุกประเภท ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา ทั้งในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม พื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการค้าและเศรษฐกิจภายในประเทศจากผลพวงของสถานการณ์โควิด-19
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ปั้มหลอดแก้วและร้านค้ารายย่อยที่เคยนำน้ำมันเถื่อนมาวางขายส่วนใหญ่ปิดเกือบทั้งหมด ส่วนที่วางขายอยู่จะเป็นน้ำมันขวดที่ซื้อน้ำมันไทยมาแบ่งขายใส่ขวดขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำมันไปตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์กับรถโมบายแล็ปของกรมสามิต หากพบว่า รายใดมีการปลอมปนนำน้ำมันเถื่อนมาผสมกับน้ำมันไทย หรือลักลอบขายน้ำมันเถื่อนเข้ามา ก็จะเปรียบเทียบปรับกับเจ้าของร้าน รวมทั้งแนะนำให้ร้านค้ารายย่อยไปขออนุญาตการจำหน่ายน้ำมันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ภาพรวมของสถานการณ์น้ำมันเถื่อนชายแดนไทย-มาเลเซีย จากการตรวจสอบพบว่า หลังจากที่มีมาตรการล๊อคดาวน์นายทุนใหญ่ และคอกน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ได้หยุดดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ยากที่จะลักลอบนำเข้ามา แต่อาจจะมีเล็ดรอดเข้ามาบ้าง แต่ก็เป็นลักษณะของชาวบ้านที่นำมาใช้และแบ่งขวดขายรายเล็กๆ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด 19 ที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นส่วนน้อย
อ้างอิง : สวท.สงขลา , กรมศุลกากร