นิพนธ์ สั่งการอธิบดี ปภ. – ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ทุกจังหวัดเสี่ยงพายุ “โนอึล” แนะเตรียมพร้อมช่วง 17-20 ก.ย. นี้
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยในการประชุมการมอบนโยบายและประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ที่ โรงแรมเซนทรา บาย เซนทารา ศูนย์ราชการฯกรุงเทพมหานคร ว่าในเรื่องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุ ตามที่ได้มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ได้ทวีกําลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) โนอึล แล้ว โดยคาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้น ภาคเหนือและภาคอื่น ๆ จะได้เกิดผลกระทบต่อไป ทำให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ซึ่งนายนิพนธ์ได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ ผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกภูมิภาค ให้วางแผนบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุและแผนอพยพ โดยการเตรียมพร้อมเรื่องเครื่องจักรกลจัดการภัยพิบัติและเจ้าหน้าที่ตลอดระยะ พร้อมทั้งบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ หน่วยงานภาคีต่าง ๆ เพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ ลดความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ในส่วนของพี่น้องประชาชนนั้น
ทั้งนี้ก็ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์พายุอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ราบเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากสภาวะดินสไลด์ กระแสน้ำป่าไหลหลากที่รุนแรง ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำ ก็ต้องเฝ้าระวังเตรียมการอพยพให้พร้อม ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ขอเน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้วางแผนร่วมกับกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อบริหารจัดการน้ำฝน “สร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล” เพื่อประโยชน์สูงสุด แก่พี่น้องประชาชนในการใช้น้ำได้ตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตามทางกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศพายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โนอึล” ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 17 กันยายน 2563 บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 600 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 14.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นอีก คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ระหว่างเมืองเว้และเมืองดานัง และเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิง : กระทรวงมหาดไทย PR , นายนิพนธ์ บุญญามณี
Thu Sep 17 , 2020
จ.สงขลา เทศกาลทำบุญเดือนสิบ ( บุญหลัง ) คึกคักชาวสงขลาเข้าวัดทำบุญกันเป็นจำนวนมาก วันนี้ 17 กันยายน 2563 วัดแหลมทราย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เนื่องในเทศกาลทำบุญเดือนสิบครั้งที่ 2 หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเทศกาลชิงเปรต โดยพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสงขลาจำนวนมากได้เดินทางมาร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบครั้งที่ 2 ยุคโควิด-19 มีการคัดกรองเข้มก่อนเข้ามาในวัด โดยตั้งจุดคัดกรองที่ประตูทางเข้าวัด มีการวัดอุณหภูมิร่างกาย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนก่อนเข้ามาในวัดโดยวันทำบุญเดือนสิบครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ประชาชนในภาคใต้เรียกว่า “เทศกาลชิงเปรต” โดยพุทธศาสนิกชนได้นำอาหารหวานคาว พร้อมขนมเดือนสิบไปทำบุญถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ที่วัดใกล้บ้าน สำหรับที่วัดแหลมทราย อ.เมือง จ.สงขลา ได้มีพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสงขลานำครอบครัวมาร่วมทำบุญเดือนสิบอย่างเนืองแน่น พร้อมทั้งให้พระสงฆ์ได้บังสุกุลอัฐิส่งส่วนบุญส่วนกุศลไปให้พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ล่วงลับไปแล้ว และตักบาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ พร้อมทั้งนำเครื่องเซ่นไหว้ตั้งที่ร้านเปรต เพื่อให้เปรตภูตได้มากินเครื่องเซ่นไหว้ ที่ลูกหลานได้มาตั้งให้กินเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ก็จะกลับไปยังนรก ในวันนี้คือวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 […]