การรถไฟฯ เปิดเดินขบวนรถท้องถิ่นสายใต้เพิ่ม 2 ขบวน เริ่ม 2 ก.ย. 64

การรถไฟฯ เปิดเดินขบวนรถท้องถิ่นสายใต้เพิ่ม 2 ขบวน เริ่ม 2 ก.ย. 64

วันที่ 2 ก.ย. 64 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ปรับมาตรการผ่อนคลายในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ดังนั้น เพื่อดำเนินการตามแนวทางการผ่อนปรน และรองรับความต้องการเดินทางของผู้ใช้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้ การรถไฟฯ จึงได้พิจารณาเปิดเดินขบวนรถท้องถิ่นเพิ่ม จำนวน 2 ขบวน และปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในบางขบวนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้

240659868 4933789176635914 713488272889688259 N

ขบวนรถท้องถิ่นสายใต้ เปิดเดินขบวนรถเพิ่ม จำนวน 2 ขบวน

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 453/454 ยะลา – สุไหงโกลก – ยะลา

ขบวนรถที่ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง/ปลายทาง จำนวน 4 ขบวน

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 447/448 สุราษฎร์ธานี – ยะลา – สุราษฎร์ธานี เปลี่ยนเป็นสุราษฎร์ธานี – สุไหงโกลก – สุราษฎร์ธานี

– ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451/452 นครศรีธรรมราช – ยะลา – นครศรีธรรมราช เปลี่ยนเป็นนครศรีธรรมราช – สุไหงโกลก – นครศรีธรรมราช

240986671 4933790779969087 3017734662382047520 N

ทั้งนี้ในการปรับการให้บริการเดินรถในครั้งนี้ การรถไฟฯ ได้คำนึงถึงความสะดวกในการให้บริการประชาชน ควบคู่กับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยได้กำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชัน ไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ แต่หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะ ให้กรอกข้อมูลการเดินทางแทน พร้อมกับต้องกรอกข้อมูลเดินทางข้ามจังหวัด-ข้ามเขตผ่านเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th/ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

241110077 4933789849969180 5630710391998661865 N

อ้างอิง : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

Next Post

เช็กเลยที่นี่ ! สิทธิประกันสังคมม.33 รับเงินเยียวยา 2,500 รอบ 2 วันไหน

Thu Sep 2 , 2021
เช็กเลยที่นี่ ! สิทธิประกันสังคมม.33 รับเงินเยียวยา 2,500 รอบ 2 วันไหน วันที่ 2 ก.ย. 64 ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายกรอบวงเงินสำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 39 ,40 ในพื้นที่ 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) เพิ่มเติม 44,314 ล้านบาท จากเดิมที่เคยอนุมัติแล้ว 33,471 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 77,785 ล้านบาท แบ่งเป็น ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 13 จังหวัด เป็นเวลา 1 เดือน และผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 16 จังหวัด ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติม ซึ่งมีจำนวนประมาณ 2.3 กว่าล้านคน อีก 1 เดือน ทางครม.ยังเห็นชอบให้ขยายการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 13 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ/นครปฐม/นนทบุรี/ปทุมธานี/สมุทรปราการ/สมุทรสาคร/ปัตตานี/ยะลา/นราธิวาส/สงขลา/ฉะเชิงเทรา/ชลบุรี และอยุธยา ซึ่งก่อนหน้านี้ รับสิทธิเยียวยาไปแล้ว 5,000 บาทต่อคน จะได้รับสิทธิเยียวยาเพิ่ม 5,000 บาท ต่อคน อีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน มีผู้ประกันตนใน 13 จังหวัดได้รับสิทธิในครั้งนี้ จำนวน 6,171,082 คน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 61,710,820,000 ล้านบาท การอนุมัติจ่ายเงินในรอบที่เพิ่มนั้น จะดำเนินการภายในเดือนกันยายน สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ ม.33 ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่รับเยียวยาคนละ 2,500 บาท ในรอบแรกไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2564  คาดว่า สำนักงานประกันสังคมจะขออนุมัติกรอบวงเงินจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้า เพื่อจะจ่ายเยียวยาอีกคนละ 2,500 บาท ภายในเดือนกันยายนนี้”         สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ         1.เข้าเว็บไซต์  www.sso.go.th เลือก ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ ผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือ ผู้ประกันตนมาตรา 40         2.เลือกตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตน         3.กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และกรอกรหัสให้ตรงตามรูปที่กำหนด         4.จากนั้นกดค้นหา         5.ระบบจะแสดงผลการค้นหา พร้อมระบุจะอัปเดตข้อมูลล่าสุด ตามวันเวลาที่กำหนดอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ไม่ได้รับสิทธิผู้ประกันตนสามารถยื่นทบทวนสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2564 โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวในการยื่นทบทวนสิทธิ โดยผู้ที่สามารถยื่นทบทวนสิทธิได้นั้นต้องเป็นผู้ที่เช็คสถานะจากเว็บไซต์ประกันสังคม ฝากถึงประชาชนติดตามด้านงานประกันสังคมทุกจังหวัดที่ใกล้บ้านของท่าน อ้างอิง : สํานักงานประกันสังคม Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ปกข่าว 01