พาณิชย์เตรียมนำไทยขึ้น Top 5 เอเชียการค้าระหว่างประเทศ พร้อมแนวทางการส่งออกสงขลาหลังช่วงโควิด-19
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ปรับแนวทางการทำงานรองรับยุค “รวมไทยสร้างชาติ” เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกชะลอตัว และมีการเปลี่ยนบริบทการค้า พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ทำให้กรมฯ ต้องปรับแผนงาน และกลยุทธ์ในการส่งเสริมผลักดันการค้าระหว่างประเทศให้สามารถดำเนินไปได้ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยเป็น Top 5 ของเอเชียในด้านการค้าระหว่างประเทศ ภายในปี 2570 ซึ่งจะต้องเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้ได้อีกอย่างน้อยปีละ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยในปี 2562 มูลค่าการค้าไทยอยู่อันดับที่8ในเอเชีย มีมูลค่า 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ1 ประเทศจีนรวมฮ่องกง มูลค่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ2 ญี่ปุ่น มูลค่า 7 แสนเหรียญสหรัฐอันดับ 3 เกาหลีใต้มูลค่า 5.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 4 สิงคโปร์มูลค่า 3.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 5 อินเดียมูลค่า 3.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 6 ไต้หวันมูลค่า 3.05 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 7 เวียดนามมูลค่า 2.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับแนวทางการทำงาน กรมฯ มีแผนทั้งในระยะสั้น กลางและยาว ซึ่งครอบคลุมการช่วยเหลือผู้ประกอบการ การผลักดันการส่งออกเป็นรายตลาด สินค้าและบริการ โดยระยะสั้น จะเร่งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าไทยเป็นแคมเปญใหญ่ทั่วโลก เน้นเรื่องความเชื่อมั่น ความปลอดภัย รุกกิจกรรมไฮบริด เน้นช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ร่วมบูรณาการแผนงานเพิ่มยอดส่งออกรายภูมิภาค เจาะรายสินค้า
อย่างที่เราทราบกันดีว่าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับประเทศไทยซึ่งสวนทางกับประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เนี่ยวโน้มสูงขึ้นจนเรียกได้ว่า 4 วันต่อล้านคนก็มีมาแล้ว หากพิจารณาตลาดส่งออกเราสามารถพบได้ว่า สหรัฐฯ เป็นเพียงตลาดหลักตลาดเดียวที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยขยายตัวเป็นบวกในเดือนก.ค. 2563 ที่ร้อยละ 17.8 สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือชนิดของสินค้าที่ส่งออก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ หนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์ยาง เพราะจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมานั้นพฤติกรรมของคนเปลี่ยนมากขึ้น สินค้าประเภท Health protection product โดยต้องเป็นสินค้าที่มีส่วนประกอบของ ยางพารา แน่นอนว่าสงขลาบ้านเรานั้นมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรนั้นคือยางพารา
เมื่อมองให้ลึกกว่านั้นการอาศัยส่งออกยางพาราคงจะไม่สามารถสร้างรายได้มากเท่าไหร่นัก เป็นผลมาจากปัจจัยคอขวดที่ต้องอิงราคาตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงผลกระทบจากการสต๊อกยางพาราอย่างมหาศาลของประเทศจีนเมื่ออปุทานที่มรสูงกว่าอุปสงค์ย่อมทำให้ต้องลดราคาลงเพื่อระบายสินค้าให้ได้ แต่ทั้งนี้ถ้าเราสามารถปรับระดับอุตสาหกรรมโดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาประยุต์สร้าง Know-how เปลี่ยนจากส่งวัตถุดิบ เป็นส่งสินค้าสำเร็จรูป จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
อ้างอิงข้อมุลเพิ่มเติม
- สำนักงานพาณิย์จังหวัดสงขลา
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม