รมช.มหาดไทย ให้ความมั่นใจคนไทยในมาเลย์ พร้อมช่วยเหลือแน่นอน!!
13 เม.ย. 63 (วานนี้) ที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และหารือวางมาตรการเพื่อให้ความมั่นใจการช่วยเหลือดูแลคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านพรมแดน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสฯของประเทศมาเลเซีย ซึ่งยังมีอยู่จำนวนมาก
โดยนายนิพนธ์ รมช.มท. ได้ระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และหารือร่วมกับ ผวจ.นราธิวาส เลขาธิการ ศอ.บต.กงสุลใหญ่ไทยเมืองโกตาบารู นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นายกเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการการช่วยเหลือที่เร่งด่วนและรัดกุมเพื่อให้แรงงานไทยที่ยังติดค้างอยู่ในมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ ได้มีความอุ่นใจและมั่นใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเอาใจใส่ต่อคนไทยทุกกลุ่มไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ รัฐบาลพร้อมหาทางช่วยเหลืออย่างแน่นอน
นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาจังหวัดนราธิวาส มีความเป็นห่วงในประเด็นสำคัญหลายเรื่อง อย่างเรื่องมาตรการในการช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซียว่า ก่อนอื่นทางรัฐบาลต้องรู้จำนวนตัวเลขที่แน่ชัดก่อน ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจให้ได้ว่า มีจำนวนตัวเลขที่แน่นอนเท่าไร ซึ่งอาจจะมีการเสนอให้ลงทะเบียนทางออนไลน์ โดยผ่านทางสถานกงสุล หรือทางสถานทูตเพื่อที่จะรู้จำนวนคนไทยที่ตกค้าง ซึ่งขณะนี้คาดการณ์ว่ามีอยู่ประมาณ 7 ถึง 8 พันคน เพื่อทางรัฐบาลจะได้เข้าไปดูแลเยียวยาได้อย่างทั่วถึงเพราะเขาเหล่านั้นคือคนไทย จึงต้องดูแลในเรื่องของอาหารการกิน ค่าใช้จ่าย ตลอดจนถึงที่พักอาศัย เพื่อให้คนไทยในมาเลเซีย สามารถใช้ชีวิตอยู่ในมาเลเซียได้อย่างปกติ และหากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็สามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งตนจะนำข้อเสนอต่างๆ หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธที่ 15 เม.ย.นี้ ส่วนจำนวนเงินที่ใช้จ่ายเพื่อจัดการปัญหานี้ก็จะมีการหารือในที่ประชุม ครม. เช่นเดียวกัน
รมช.มหาดไทย ยังได้กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับการปฏิบัติเรื่องการเข้า-ออกระหว่างประเทศ ซึ่งพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียมีช่องทางธรรมชาติเพื่อใช้สัญจรกว่า 70 จุด ซึ่งไม่ผ่านการคัดกรองกลายเป็นความเสี่ยงที่สุดหากมีการผ่านจุดดังกล่าวมาได้ ในเรื่องนี้นอกจากจะเข้มงวดการปฏิบัติของจนท.แล้วความร่วมมือจากคนไทยก็เป็นสิ่งสำคัญ ขอเรียนแจ้งไปยังคนไทยในมาเลเซียว่า ควรติดต่อญาติให้ไปติดต่อกับสถานกงสุลหรือสถานทูตในมาเลเซียว่าอยู่ที่ไหน เสมือนกับเป็นการลงทะเบียน เพื่อรัฐจะได้ช่วยเหลือเยียวยาได้ต่อไป และมีส่วนช่วยให้ลดความเสี่ยงการลักลอบเข้าออกระหว่างประเทศที่ไม่ได้ผ่านจุดคัดกรองได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดอยู่ในประเทศมาเลเซียนั้น เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนไทยในมาเลเซียคอยฟังข่าวจากทางการไทยว่าจะมีการช่วยเหลืออย่างไร เพราะมีคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซียอีกเป็นจำนวนมากส่วนหนึ่งหากมีการช่วยกลับประเทศไทยได้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียได้อีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ต้องหาแนวทางแก้ปัญหากันต่อไป โดยหวังว่าการเดินทางมาของทางการไทยในวันนี้จะเป็นการนำข้อเท็จจริงและข้อเสนอต่าง ๆ ไปกำหนดมาตรการเพื่อช่วยคนไทยให้ได้โดยเร็ว
อ้างอิงข้อมูลจาก: กระทรวงมหาดไทย PR
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์