ม.ราชภัฏภูเก็ต ยืนยืนนักศึกษานางสาวพรพิพัฒน์ เหตุเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากกิจกรรมรับน้อง วันนี้(21 ส.ค.63)ที่มหาลัยราชภัฏภูเก็ต ผศ.ดร.หิรัญ ประสานการ กรณีที่มีนักศึกษาปีที่ 1 เสียชีวิตหลังจากที่เกิดอาการช็อกหมดสติและเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ผศ.ดร.หิรัญ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความสูญเสียของ นางสาวพรพิพัฒน์ เอียดดำ (น้องมิ้นท์) นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในวันที่ 20 ส.ค.2563 ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างสูงต่อครอบครัวของนักศึกษา ซึ่งเรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต มิได้นิ่งนอนใจ โดยจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น จำนวนเงิน 100,000 บาท และได้ติดต่อประสานงานกับครอบครัวของนักศึกษาแล้ว หลังจากนนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวโดยด่วน ซึ่งการสูญเสียในครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากกิจกรรมการรับน้องตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงกิจกรรมกีฬาสีของคณะ โดยเป็นเหตุการณ์การเตรียมกิจกรรมกีฬาสีในวันที่ 19 ส.ค.2563 ซึ่งมหาวิทยาลัยจะดำเนินการแถลงข่าวเมื่อมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในลำดับต่อไป นายธีรพงษ์ หนูไชยแก้ว คณะบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตกล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นทางฝั่งของพ่อแม่ของน้องก็ได้มีการพูดคุยกับทางเพื่อนคนที่ควบคุมก็คือ มีรุ่นพี่ที่คอยควบคุมอาจารย์ก็ได้อยู่ที่โรงพยาบาลคอยที่จะดูแลในส่วนของตรงนี้ ก็ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตแต่ในขณะนี้ต้องรอผลการพิสูจน์ของแพทย์ก่อน […]
ข่าววันนี้
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 21 สิงหาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย วันที่ 21 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากประเทศสิงคโปร์ 1 ราย HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์
แจ้งปิดเส้นทางท่าข้าม (สี่แยกนาหลา) มีการก่อสร้างเส้นทางถนนโปรดใช้เส้นทางสำรอง ฝากแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางท่าข้าม-เขากลอย ให้ใช้เส้นทางอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบท ซึ่งมีการสร้างถนนคอนกรีตและรางระบายน้ำเพื่อปรับปรุงจุดเสี่ยงอันตรายบริเวณทางแยก จึงต้องปิดเส้นทางจราจรชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง และเปิดให้ใช้เส้นทางสำรอง 3 จุด คือ ไป ควนหิน -น้ำน้อย ใช้เส้นทาง ซอยกลางนา – ถนนศาลา 200 ปี – ถนนสาย สข 3005 ไป สงขลา – ควนหิน ใช้เส้นทาง ซอยศาลาทวด -ซอยโคกพะยอม ถนนสาย สข.3005 ไป หาดใหญ่ – จะนะ ใช้เส้นทาง ซอยข้างวัดหินเกลิ้ยง-ซอยเซ้งอุทิศ -ถนนสาย สข.2031 เส้นทางดังกล่าวจะปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ตอนนี้-จนถึง 25 กันยายน 2563 ทั้งนี้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรโปรดใช้ความระมัดระวัง ทางกองช่างจะรีบดำเนินการเพื่อเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติให้รวดเร็วที่สุด […]
กรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เตือนคนไทยหากลักลอบเข้าประเทศมาเลเซียแบบผิดกฏหมาย เสี่ยงติดคุกพร้อมมีโทษหนัก เนื่องจากกรณีที่มีชายชาวมาเลเซียติดโควิด-19และกลับจากประเทสไทยทำให้ทางสำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย (สนร. มาเลเซีย) เปิดเผยว่าพบว่ามีแรงงานไทยถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เดินทางมาทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิง และพนักงานนวด นอกจากนี้ สนร. มาเลเซีย ยังได้รับการติดต่อจากญาติของแรงงานไทยที่ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศมาเลเซียจำนวนหลายราย ให้ช่วยเหลือญาติของตนที่ถูกทางการมาเลเซียจับกุม เนื่องจากทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และในตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันล่าสุดแล้ว 9,240 รายและเสียชีวิตแล้ว 125 เนื่องจากมีการระบาดหนักระลอกที่ 2 ในทุกรับของประเทศมาเลเซียโดยในตอนนี้ทางประเทศมาเลเซียยังคงประกาศปิดเมืองเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ จึงไม่มีการเปิดรับสมัครงานในประเทศมาเลเซีย และยังไม่สามารถเข้าไปทำงานได้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางประเทศมาเลเซียว่าจะมีการกำหนดเปิดเมืองเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามทางด้านสนร. มาเลเซียจึงขอแจ้งให้ทราบว่าการเข้ามาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือการลักลอบทำงานโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายการเข้าเมืองมาเลเซียหากถูกทางการจับกุม จะมีความผิดและบทลงโทษดังนี้ HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย
ราชกิจจานุเบกษาเตรียมขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินรอบที่ 5 ถึงวันที่ 30 กันยายน 63 นี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 63 ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เผยว่าในวันนี้มีมติต่อพระราชกำหนดฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อโดยการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในครั้งนี้เป็นรอบที่ 5 แล้วตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ซึ่งครั้งนี้จะต่อขยายเพื่อครอบคลุมไปทั้งเดือนกันยายน ส่วนการประเมินสถาการณ์การชุมนุมของนักศึกษาของหน่วยงานด้านความมั่นคงนั้น พล.อ.สมศักดิ์ เผยต่อว่าการชุมนุมนั้นเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ยังยืนยันว่าจะไม่มีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาบังคับใช้กับการชุมนุม แต่หากการชุมนุมเป็นไปตามกรอบกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไรแม้ว่าจะกระจายไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศส่วนกรณีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับจากประเทศตรวจพบที่ รพ.รามาฯ นั้น ขอให้อยู่ในการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกันกับการพิจารณาทบทวนมาตรการใหม่ ซึ่งในวันศุกร์นี่จะมีการประชุมในเรื่องที่มีการผ่อนคลายมาตรการไปแล้วทั้งการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ ระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงการอนุญาตให้เข้าชมกีฬ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับทั้ง 3 กรณีที่ผ่อนปรนไปแต่ต้องสืบส่วนต่อไป HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สภาความมั่นคงแห่งชาติ
เรือนจำสงขลา ตรวจค้นเรือนจำเพื่อกวาดล้างยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายหลังโควิด-19 วันนี้ (20 ส.ค. 63) ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา นำเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสงขลา จำนวน 88 ราย เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกรณีพิเศษตั้งแต่รุ่งสาง โดยได้แยกย้ายเข้าตรวจค้นเรือนนอน ตู้เก็บสิ่งของ และอาคารสถานที่ภายในเรือนจำอย่างละเอียด นายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันยังมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นภัยคุกคมสังคมต่อการพัฒนาประเทศและความสงบสุข ของประชาชน นำไปสู่ปัญหาการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ และเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน การดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ที่ผ่านมาทำให้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน สำหรับเรือนจำจังหวัดสงขลา มีภารกิจด้านการควบคุม ผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดสงขลา ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด บางคนมีอิทธิพลด้านการเงินและมีเครือข่ายภายนอกเรือนจำเป็นจำนวนมาก อาจพยายามลักลอบใช้เรือนจำเป็นฐานการสั่งซื้อ ซื้อขายยาเสพติด โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อกลางในการติดต่อกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำและ อาจลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปภายในเรือนจำ ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดสงขลา […]