Hatyaitodaynews

ยับเยิน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนเกาะกลางถนน แยกธนาคารทหารไทย(สงขลา) เมื่อคืนนี้ 17/01/63 เวลา 01.50 น. ทางหน่วยร่วมใจกู้ภัย เมืองสงขลา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุทางการจราจร รถยนต์เก๋งชนเกาะกลางถนน บริเวณแยกธนาคารทหารไทย ซึ่งทางร่วมใจกู้ภัย เมืองสงขลา รีบประสานงานเข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ พบรถยนต์ข้ามเลนรถอยู่ทางซ้ายจอดอยู่ตรงเกาะกลางถนน สภาพได้รับความเสียหายข้างรถยับเยิน ในรถยนต์ผู้บาดเจ็บพบ 2 ราย ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก 1 ราย และแผลถลอกเล็กน้อย 1 ราย ในพื้นที่ใกล้เคียงไม่พบความเสียหายหรือบุคคลอื่นเพิ่มเติม ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งรพ. สงขลา ในส่วนของสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจำสืบสวนหาสาเหตุต่อไป HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : หน่วยร่วมใจกู้ภัย เมืองสงขลา

จ.สงขลามีเมฆมาก-ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ตั้งแต่วันนี้ -19 ธ.ค. 63 ปชช.โปรดเตรียมพร้อมรับมือจากฝนตกหนัก วันนี้ 17/12/63 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและ ภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในพื้นที่ส่วนใหญ่ เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 […]

ชายวัยรุ่น บ้านควนกุน ต.สำนักขาม เมายาอาละวาดเผาบ้านตัวเอง พร้อมหลบหนีหายตัวไป ตำรวจเร่งตามจับกุม เมื่อคืนนี้  15 ธ.ค. 63   เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะเดาพร้อมทั้งเจ้าหน้ากู้ชีพเทศบาลสำนักขาม,เจ้าหน้าที่กู้ชีพ,เทศบาลเมืองสะเดา  ร่วมกันเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้  บริเวณบ้านเลขที่  62/3  บ้านควนกุน  ม.3 ต.สำนักขาม  อ.สะเดา   จ.สงขลา   ซึ่งหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าชายวัยรุ่นเมายาเสพติดอาละวาดและพกพาอาวุธมีดติดตัวตลอดเวลา  เกิดอาการคุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเองเสียหายและขนำในป่ายางเสียหายอีก  1 หลัง  เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำกำลังเข้าตรวจสอบ   เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้าน  เป็นบ้านไม้สองชั้นแต่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงได้  เนื่องจาก  เจ้าของบ้านกำลังอาละวาดเพราะเกิดอาการเมายาเสพติด  จากการตรวจสอบทราบชื่อชายวัยรุ่นคนดังกล่าว  คือ  นาย  อับดุลเลาะ มะเด็ง  อายุ 24 ปี  ภายหลังทางเจ้าหน้าที่จึงได้เกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล  ซึ่งในเวลต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุลมุนกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้ นายอับดุลเลาะได้อาศัยความมืดหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปได้  ซึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าสกัดเพลิงไว้ได้และทำการตรวจสอบ ความเสียหายภายในบ้าน พบว่า ข้าวของภายในบ้านเสียหายบางส่วนและส่วนบ้านชั้นบนเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด   เพื่อตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : Aom Maneerat(พิราบขาวชายแดน)

กำลัง3ฝ่าย อ.สุไหงโก-ลก รวบต่างด้าวสัญชาติเวียดนามกลางป่าริมท่าน้ำบ้านกวาลอซีรา ขณะลักลอบข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรได้ 7 ราย เมื่อคืนนี้ 14 ธ.ค.63 เวลา 22.40 บริเวณ บ้านกวาลอซีรา ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กำลัง3ฝ่ายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเครือข่ายภาคประชาชน ทำการลาดตระเวนบริเวณแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบตามมาตรการป้องกันชายแดนช่วงโควิด-19 ขณะลาดตระเวนนั้นได้ยินเสียงคนพูดคุยและ เครื่องยนต์เรือจึงได้ทำการเคลื่อนกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบบุคคลจำนวนหนึ่งกำลังขนของขึ้นฝั่งและเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว คนขับเรือจึงได้กระโดดน้ำหนีไปขึ้นฝั่งมาเลเซียทิ้งเรือพร้อมเครื่องยนต์และ ผู้โดยสารไว้เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ลักลอบเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็น ชาย 2 คน และหญิง 5 คนสัญชาติเวียดนาม จำนวน 7 คน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ปรากฏว่าทั้ง7คนไม่มีหนังสือเดินทางเข้ามายังราชอาณาจักร และไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมายัง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อจัดทำประวัติ ตำหนิรูปพรรณ พร้อมควบคุมตัวผู้ถูกจับ นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตั้งประเด็นการลักลอบเข้าเมืองครั้งนี้ คาดว่ามุ่งหาประโยชน์จากการนำส่งบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศไทยเพื่อกลับประเทศภูมินำเนา […]

รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยเกษตรกรและปศุสัตว์ พระราชทานหญ้าอาหารสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-จนถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักทำให้พื้นที่ของจังหวัดสงขลา ประสบสาธารณภัยน้ำท่วม รวม 15 อำเภอ นอกจากจะกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนแล้ว ยังกระทบไปถึงอาชีพปศุสัตว์ โดยเฉพาะโค ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกษตรกรบนคาบสมุทรสทิงพระที่ชาวบ้านนิยมเลี้ยง พระบาทเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยเกษตรกร และปศุสัตว์ที่ประสบอุทกภัย จึงได้พระราชทานหญ้าอาหารสัตว์ แก่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ อาทิ โค และกระบือ ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลา จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ และปศุสัตว์อำเภอต่างๆ บนคาบสมุทรสทิงพระ รวมไปถึงอำเภอควนเนียงในการลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อน และเข้าให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของกรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน เพื่อนำไปช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในพื้นที่ประสบอุทกภัย และจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ในส่วนราชการและชาวบ้านเกษตรกรในพื้นที่ต่างรู้สึกซาบซึ้งและ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดมิได้ที่ทรงห่วงใยเกษตรกรและปศุสัตว์ที่ประสบอุทกภัย HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : สวท.สงขลา