เร่งรัฐบาลหนุนงบประมาณป้องกันโควิด-19 ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การเตรียมความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้จากการประชุมร่วมกันระหว่างสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทั้ง 5 จังหวัด( ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลา)ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตามข้อเสนอเร่งด่วนในสถานกรณ์โควิด-19 ที่ได้ข้อสรุปนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณา ประกอบด้วย 1.รัฐสนับสนุนงบประมาณให้กับโรงเรียนรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 400,000 บาท และ 500,000 บาท ซึ่งในขณะเดียวกันโรงเรียนเอกชนต้องกู้ยืมและให้จ่ายคืนภายใน 1 ปี ดังนั้นจึงขอให้สนับสนุนงบประมาณจำนวนดังกล่าวเหมือนกับโรงเรียนรัฐบาล 2.ขอให้รัฐสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 จำนวน 8 รายการ ให้กับโรงเรียนเอกชนเช่นเดียวกับโรงเรียนรัฐบาล 3.ขอให้รัฐสนับสนุนเยียวยาครูเอกชนตามที่สำนักกงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)ได้สำรวจมา 4.ขอให้รัฐสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาโรงเรียนเอกชนตามที่ สช.ได้สำรวจมาแล้ว และ 5.ขอให้รัฐสนับสนุนงบปรับทัศนคติเด็กอายุ 1-5 ขวบ โดยแปรเป็นงบพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และเด็กอนุบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในประเด็นดังกล่าวทราบว่าขณะนี้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้บรรจุลงวาระไว้แล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าอีกไม่กี่วันโรงเรียนก็จะเปิดแล้ว แต่ว่าความพร้อมของโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ก็ยังไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : กรมข่าวประชาสัมพันธ์
อิสลาม
คลายล็อค ผ่อนปรนให้พี่น้องมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในประเทศไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นซึ่งมีผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐโดยความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพของประชาชนและ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการให้ความร่วมมืออย่างยิ่งของพี่น้องมุสลิมในทุกพื้นที่ในการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ของจุฬาราชมนตรีและตามที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนด เพื่อผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดนั้น จึงพิจารณาเห็นควรผ่อนปรนให้มีการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ สำหรับมัสยิดที่มีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดดังนี้ 1. ให้คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ที่มีความประสงค์จะปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์แจ้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ในการปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรีและ มาตรการของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตลอดจนมาตรการหรือคำแนะนำของทางราชการเกี่ยวกับการป้องกันโรค 2. สำหรับมัสยิด 2.1 ให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิดทุกครั้ง 2.2 จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด 2.3 งดใช้บ่อน้ำ (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน 2.4 ทำความสะอาดมัสยิดโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสเป็นจำนวนมากอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ ๑-๒ ครั้งและไม่เปิดเครื่องปรับอากาศโดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิดผ้าม่านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก 2.5 จัดทำเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตำแหน่งได้โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุด 1.5 เมตร 2.6 ควบคุมทางเข้า-ออกมัสยิดและ จัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดญะมาอะห์ 2.7 ให้มัสยิดจัดเตรียมแบบบันทึกให้ผู้มาร่วมละหมาดญะมาอะห์บันทึก ชื่อ-นามสกุลพร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดตามกรณีที่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น 2.8 ให้เปิดมัสยิดก่อนเวลาละหมาด 15 นาทีและปิดหลังจากละหมาดเสร็จ15นาที […]