ปภ.ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัดโดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากและวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน 7 ธันวาคม 2563 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากและวาตภัย รวม 11 จังหวัด รวม 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 24 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยทหารจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้โดยด่วนทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ลุยน้ำท่วม
เทศบาลนครหาดใหญ่ วางกระสอบทรายหลายพื้นที่เพื่อรับมือฝนตกหนัก วันที่ 22 พ.ย. 63 เวลา 09.30 น. นายธนเดช อินขัวญ ผอ.ส่วนข่างสุขาภิบาล สำนักการช่าง นางปฏิมา ตันติเมตตา หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่ายปกครอง หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำร่วมประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำ และประเมินสรุปปัญหาน้ำท่วมขังที่เกิดจากฝนตกหนักเมื่อวันที่ 21 พย.2563 ที่ทำให้มีน้ำท่วมขังหลายจุด พร้อมทั้งวางแผนการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหากเมื่อฝนตกหนักในช่วงบ่ายของวันนี้ ประกอบด้วย 1. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 จุด โดยฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สน.ปลัด – สถานีสูบน้ำ SC อาภาคอร์ท ท่อสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว – สถานีสูบน้ำปลายคลองเตย ท่อสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว – หน้าค่ายเสนาณรงค์ ท่อสูบน้ำขนาด 2 นิ้ว 2. ประสานสำนักการสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อม […]
สรุปสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ วันที่ 21 พ.ย. 63 จากกรณีฝนตกหนักในพื้นที่ 130 มิลลิเมตร ใน 2 ชั่วโมง ในวันที่ 21 พ.ย. 63 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นฝนตกหนักในเวลาอันสั้น เกินขีดความสามารถในการระบายน้ำของนครหาดใหญ่ (60 มิลลิเมตรใน 1 ชั่วโมง) ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ อันได้แก่ พื้นที่แนวถนนกาญจนวานิช หน้าเทคนิคหาดใหญ่ – หน้าค่ายเสนาณรงค์ ถนนเพชรเกษม หน้าพาณิชยการหาดใหญ่และซอยย่อยฝั่งเดียวกับ พาณิชยการหาดใหญ่ ชุมชนโชคสมาน ชุมชนวัดโคกสมานคุณ ย่านโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ย่านรัถการ อุโมงค์ลอดทางรถไฟสะพานกัลยาณมิตร -ย่านถนนแสงศรี ถนนแสงจันทร์ ย่านชุมชนริมทางรถไฟ ท่ายางบ่อนไก่ ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เร่งระบายน้ำออกจากเมืองผ่านสถานีสูบน้ำหลักริมคลองเตยและคลองอู่ตะเภา อย่างเต็มศักยภาพของเครื่องสูบน้ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนสถานการณ์ในหลายพื้นที่คลี่คลาย เมื่อเวลา 01.00 น. รวมถึงการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการช่วยเหลือประชาชนโดยหน่วยงานจากสำนักการช่าง สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และสำนักปลัดเทศบาล […]
พยากรณ์อากาศวันนี้ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาวันที่ 6-12 พ.ย. 63 จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น กับมีฝนบางแห่ง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง พยากรณ์อากาศ และแผนที่พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 24 ชม.ข้างหน้า มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก ภาคใต้ บริเวณพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 […]
จังหวัดสงขลา เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง วันที่ 14 ต.ค. 63 หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา เผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้รายงานว่าจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน 14 ตุลาคม 2563 และมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์และวาตภัยในหลายพื้นที่นั้น โดยในส่วนของจังหวัดสงขลาขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเกิดสถานการณ์ ทางห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม สำนักวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา (สวพ.) กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้แจ้งสถานการณ์น้ำฝน วันที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 15.24 น. เตือนภัยเตรียมพร้อม (สีเหลือง) ด้วยระดับน้ำบริเวณบ้านหูแร่ ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระดับน้ำ 3.01 เมตร ระดับวิกฤต 4.50 เมตรนั้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานพื้นที่ทราบว่า ขณะนี้ฝนตกเบาบางแล้ว แนวโน้มระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอาจล้นตลิ่งเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางส่วน ซึ่งได้แจ้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบทราบ และขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่ปลอดภัยแล้ว ขณะนี้งทุกภาคส่วนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สวท.สงขลา
6 เทคนิคขับรถลุยน้ำ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นควรปฏิบัติอย่างไร 1. ขับรถช้าๆ เคลื่อนรถเรื่อยๆ ในกรณีที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วม แนะนำให้ขับรถช้าๆ เพราะเวลารถเคลื่อนตัวจะเกิดคลื่นน้ำ ยิ่งเวลาที่มีรถยนต์อีกคันสวนทางมาด้วย ก็จะยิ่งเกิดแรงปะทะ และเพิ่มคลื่นน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ภายในได้ แต่ถ้าขับรถช้าๆ จะช่วยลดความแรงของคลื่น และไม่ทำให้น้ำกระเด็นเข้ามาในรถนั่นเอง 2. ควรใช้เกียร์ต่ำ แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำ เพราะจะง่ายต่อการเบรก โดยสำหรับเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 แต่สำหรับเกียร์ออโต้ ควรใช้เป็นเกียร์ L หรือ D2 และขับรถด้วยความเร็วต่ำอย่างที่บอกไปข้างต้น อย่าเร่งความเร็ว เพราะจะทำให้เบรกได้ยากขึ้น 3. พยายามเหยียบเบรกย้ำๆ เมื่อผ่านระยะน้ำไปแล้วให้ทำการเหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อเป้นการไล่น้ำออกจากระบบเบรก 4. ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด เวลาขับรถลุยน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นน้ำตื้นหรือน้ำลึก หากเปิดแอร์ไว้แล้วขับรถลุยน้ำต่อไป ตัวพัดลมจะยังทำงานอยู่ ทำให้ใบพัดพัดน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง และอาจเข้าสู่ระบบไฟต่างๆ จนทำให้เครื่องยนต์ดับได้ง่ายๆ หรือใบพัดอาจพัดไปโดนพวกเศษขยะ กิ่งไม้ […]