จนท.ทหารราบที่ 5 จับกุมชายสัญชาติลาวหลบหนีจากมาเลผ่านช่องทางธรรมชาติ อ้างถูกนายจ้างลอยแพ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดจรยุทธ์หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้จับกุมแรงงานต่างด้าว สัญชาติลาว เพศชายจำนวน 1 คน บริเวณ หลักเขตแดนที่19/3 บ.ไร่ตก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ทราบชื่อคือ นาย เอ ทองบุญเนือง อายุ 53 ปี มีบัตรบุคคลต่างด้าวที่อยู่ตามบัตรในไทย ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย 31 ปี ตั้งแต่ปี 2532 มาทำอาชีพประมง อยู่ที่ จ.ปัตตานี และเมื่อ 6 ก.พ.63 ได้เดินทางเข้าไปในมาเลเซียเพื่อไปทำประมงโดยปัจจุบันถูกเลิกจ้างและต้องการกลับมาอยู่กับครอบครัวที่ […]
ลักลอบเข้าประเทศ
สะเดา-สงขลา จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 8 คนลักลอบข้ามแดนมาจากประเทศมาเลเซีย วันนี้ 17 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา ร่วมกับ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 8 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ขณะถูกนายหน้าคนไทยนำมาพักไว้ในกุโบร์ หรือ สุสานมุสลิมบริเวณป่าสวนยาง พื้นที่บ้านเคียนเภา หมู่4 ต.ปริก อ.สะเดา เพื่อรอเดินทางกลับไปยังประเทศเมียนมา โดยแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 8 คน ลักลอบเดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซียผ่านทางริมรั้วชายแดนไทยมาเลเซีย บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาหลังจากที่ทางการมาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 1สิงหาคมซึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากและตัดสินใจลักลอบหนีเข้ามายังฝั่งไทย โดยบอกว่าต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนไทยคนละ 3,300 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทยราว 27,000 บาท เพื่อพาข้ามแดนมาจากประเทศมาเลเซียและส่งต่อไปยังประเทศเมียนมาทางจ.ระนอง ซึ่งสภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 8 คน เริ่มอ่อนแรงและหิวโซเพราะไม่ได้กินข้าวมาสองวันหลังจากที่ถูกนายหน้าคนไทยนำมาพักไว้ในสุสานเพื่อรอเดินทางต่อ แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจากสภาพแรงงานทั้ง 8 คนน่าจะถูกลอยแพปล่อยทิ้งในป่า […]
แรงงานไทยลักลอบเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติเพิ่ม 8 ราย หลังมาเลเซียล็อคดาวน์ประเทศเข้มงวดป้องกันโควิด-19 เมื่อวานนี้ 16/1/64 หลังจากการประกาศล๊อคดาวน์หลายพื้นที่ในประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้แรงงานไทยที่เข้าไปทำงานรับจ้างที่ร้านอาหารในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซียืจำนวน 8 คนที่มีภูมิลำเนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัดสินกลับประเทศไทย โดยว่าจ้างผู้นำพาด้วยค่าจ้างคนละ 700 ริงกิต หรือประมาณ 5,000 บาท เพื่อลักลอบนำกลับเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก บริเวณบ้านลูโบ๊ะฆง หมู่3 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทหารชุดป้องกันชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าว ได้จับกุมได้ขณะกำลังขึ้นฝั่ง และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งคณะทำงาน EOC อำเภอสุไหงโก-ลก และส่งตัวเข้าพักที่ศูนย์พักคอย เพื่อการส่งตัวเข้ากระบวนการคัดกรอง อาคารสนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส แรงงานไทยชุดดังกล่าว ยอมรับว่าตั้งใจลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากตอนเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียก็เข้าไปอย่างผิดกฎหมาย จึงไม่มีเอกสารที่จะลงทะเบียนกลับประเทศไทยกับสถานทูต ทั้งนี้มีความตั้งใจที่จะเข้ารายงานตัวอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าพวกตนมาจากประเทศมาเลเซียที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงไม่อยากให้คนในครอบครัวและส่วนรวมต้องเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย พร้อมกันนี้ได้เล่าถึงสถานการณ์ในประเทศมาเลเซียว่า คนที่เข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายใช้ชีวิตลำบากมาก ทั้งเสี่ยงโดนจบ และเมื่อรัฐบาลมาเลเซียประกาศล๊อคดาวน์ก็จะทำงานยากขึ้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการล็อคดาวน์อย่างเคร่งครัด ประกอบกับในประเทศมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 […]
นายอำเภอสุไหงโก-ลกและกำลัง3ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายเข้มกับบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย 11 ราย วันนี้ 25 ธ.ค. 63 เวลา 06.00 น. นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลกและกำลัง3 ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายเข้มกับบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ออกลาดตระเวนริมชายฝั่งแม่น้ำสุไหง-โกลก ขณะลาดตระเวนตรวจตาป้องกันคนลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายตามมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 นั้น พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาข้ามจากฝั่งมาเลเซียมายังฝั่งประเทศไทย บริวเวณหน้าวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก 11 ราย จึงดำเนินการจับกุมและให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ตรวจสอบคัดครอง วัดอุณหภูมิตรวจไข้ ตามหลักสาธารณสุข ใช้เจลแอลอฮอล์ล้างทำความสะอาด เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งภายหลังเสร็จกระบวนการคัดกรองก็ดำเนินการสอบสวนต้นแหล่งขบวนการลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินคดีทางกฎหมายส่งเรื่องให้ศาลดำเนินการต่อไปในเบื้องต้น ขณะนี้บุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในหลักประมาณร้อยกว่าคน แต่ประชาชนโปรดมั่นใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่มีการติดเชื้อคนในพื้นที่ และป้องกันแนวทางธรรมชาติอย่างเต็มที่ไม่ให้หลุดเข้าในเมือง ในประเทศได้แน่นอนได้รวบรวมกำลังตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ต่างๆ คุมเข้ม หากคนในพื้นที่ให้ที่พักพิงแก่คนลักลอบ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย HATYAITODAYNEWS
กำลัง3ฝ่าย อ.สุไหงโก-ลก รวบต่างด้าวสัญชาติเวียดนามกลางป่าริมท่าน้ำบ้านกวาลอซีรา ขณะลักลอบข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรได้ 7 ราย เมื่อคืนนี้ 14 ธ.ค.63 เวลา 22.40 บริเวณ บ้านกวาลอซีรา ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กำลัง3ฝ่ายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเครือข่ายภาคประชาชน ทำการลาดตระเวนบริเวณแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบตามมาตรการป้องกันชายแดนช่วงโควิด-19 ขณะลาดตระเวนนั้นได้ยินเสียงคนพูดคุยและ เครื่องยนต์เรือจึงได้ทำการเคลื่อนกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบบุคคลจำนวนหนึ่งกำลังขนของขึ้นฝั่งและเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว คนขับเรือจึงได้กระโดดน้ำหนีไปขึ้นฝั่งมาเลเซียทิ้งเรือพร้อมเครื่องยนต์และ ผู้โดยสารไว้เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ลักลอบเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็น ชาย 2 คน และหญิง 5 คนสัญชาติเวียดนาม จำนวน 7 คน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ปรากฏว่าทั้ง7คนไม่มีหนังสือเดินทางเข้ามายังราชอาณาจักร และไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมายัง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อจัดทำประวัติ ตำหนิรูปพรรณ พร้อมควบคุมตัวผู้ถูกจับ นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตั้งประเด็นการลักลอบเข้าเมืองครั้งนี้ คาดว่ามุ่งหาประโยชน์จากการนำส่งบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศไทยเพื่อกลับประเทศภูมินำเนา […]
สุไหงโก-ลกรวบตัวบุคคลต่างด้าวมาเลเซียหลบหนีเข้าเมืองทางเรือไฟเบอร์ข้ามฝั่งมา 1 ราย เมื่อวานนี้ 10/12/63 นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมกำลัง3 ฝ่ายร่วมจับกุมนายอัสฮา บินอับดุลเลาะมาน อายุ 53 ปี ชายสัญชาติมาเลเซีย อยู่บ้านเลขที่ 11173 ตำบลกูวากูเล็ง อำเภอปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ขณะลักลอบเดินทางเข้ามาประเทศไทยทางเรือของผู้นำพาชาวไทยบริเวณช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามบ้านท่าทราย หมู่7 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางเรือไฟเบอร์ จำนวน 1 ลำ และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คันที่บุคคลต่างด้าวเตรียมใช้ในการเดินทางในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อไปหาภรรยาที่ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก โดยความตั้งใจของนาย อํสฮา บินอับดุลเลาะ ที่จะข้ามมาฝั่งอ.สุไหง-โกลก ประเทศไทย เพื่อที่จะนำเงินมาให้ภรรยาไว้ใช้จ่าย ซึ่งได้ติดต่อนายหน้าที่อยู่ในรัฐกลันตัน จากนั้นได้ว่าจ้างผู้นำพาซึ่งเป็นคนไทยด้วยค่าจ้าง 30 ริงกิต หรือประมาณ 270 […]