จังหวัดสงขลา ตรวจเชิงรุกATK หาเชื้อโควิด-19 ให้แก่พระภิกษุและสามเณร วันที่ 3 พ.ย. 64 เทศบาลนครหาดใหญ่ ให้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาเชื้อโควิด 19 ให้แก่พระภิกษุ สามเณร และบุคลากรของวัด ณ วัดหงษ์ประดิษฐาราม ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ลดการแพร่ระบาดในเชิงรุก เพื่อยืนยันผลและเร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงมารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งพล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ มอบหมาย นายนิยม พรรณราย รองประธานสภาเทศบาล พร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ เขต1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้กำลังใจและอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการเชิงรุก Swab ในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้มีพระภิกษุ สามเณร และบุคลากรของวัดเข้ารับการตรวจคัดกรองจำนวน 77 ราย ปรากฏว่ามีผลเป็นลบจำนวน 76 ราย และมีบุคลากรของวัดมีผลเป็นบวกติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน 1 ราย สำหรับวันที่ 4 พ.ย. 64 เทศบาลนครหาดใหญ่จะให้บริการ ตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ฟรี ตั้งแต่เวลา 13.30 – 15.30 น. ณ ศาลาอเนกประสงค์ชุมชนบางหัก ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงขอเชิญชวนประชาชนชุมชนหน้าโรงเหล้าสรรพสามิตร ชุมชนบางหัก และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ารับการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อหาเชื้อโควิด-19ด้วยชุดตรวจ ATK โดยเตรียมบัตรประชาชนตัวจริง เพื่อแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ และสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ขณะมาเข้ารับการตรวจ อ้างอิง : เทศบาลนครหาดใหญ่
พระสงฆ์
หาดใหญ่ เกิดเหตุสลด เจ้าอาวาสวัดน้ำน้อยในผูกคอตาย ปมเครียดปัญหาสุขภาพ วันที่ 12 ต.ค. 63 เวลาประมาณ 20.30 น. ทาง ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ นวดเอียด พนักงานสอบสวนเวรฯ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.คอหงส์ ว่า มีพลเมืองดีพบศพเจ้าอาวาสวัดน้ำน้อยในผูกคอตายอยู่ภายในกุฏิ จึงได้นำทีมพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แพทย์เวร รพ.ม.อ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่สายตรวจต.น้ำน้อยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในสถานที่เกิดเหตุพบศพเจ้าอาวาสใช้ผ้าผูกคอเสียชีวิตอยู่ภายในกุฎิ ทราบชื่อ พระอิศ สีสุทโธ อายุ 71 ปี จึงได้ให้ทีมแพทย์นิติเวช ชันสูตรพลิกศพผลการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากการสอบสวนบุคคลใกล้เคียงเบื้องต้นว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีปัญหาเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ตามในตอนนี้สาเหตุที่แน่ชัดอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน HATYAITODAYNEWS
ออกกฎเข้มคุมพระสงฆ์ กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขออนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.) โดยหนังสือระบุว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนผ่านทางระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ชาติ (พศ.) กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับวัดช้าเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณทบาตบริเวณหน้าร้านค้าตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมให้ร้านจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ เมื่อบิณทบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเน้นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้ 1. การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณรจะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น. 2. การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ตามร้านขายอาหาร หรือบิณทบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณทบาตแห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ 3. การบิณทบาตด้วยการนั่งรับบาตรหรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ 4. สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร […]