ครม.มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลา 1 เดือน สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 7) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 และสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อขยายระยะเวลาการบังคับใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศนั้น สภาความมั่นคงแห่งชาติได้ประเมินสถานการณ์การปฏิบัติของส่วนราชการต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ในภาพรวมทั่วโลกยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและพบการระบาดระลอกที่สอง ในหลายภูมิภาค โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณวันละ5 แสนคนทั่วโลก โดยปัจจุบันประเทศหลายประเทศในทวีปยุโรปได้กลับมาใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดอีกครั้ง นอกจากนี้จากการประเมินขององค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว โดยคาคว่าจะมีผู้ติดเชื้อ 60 – 62 ล้านคนทั่วโลก 2. นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด […]
พรกฉุกเฉิน
ราชกิจจานุเบกษาเตรียมขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินรอบที่ 5 ถึงวันที่ 30 กันยายน 63 นี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 63 ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เผยว่าในวันนี้มีมติต่อพระราชกำหนดฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อโดยการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในครั้งนี้เป็นรอบที่ 5 แล้วตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ซึ่งครั้งนี้จะต่อขยายเพื่อครอบคลุมไปทั้งเดือนกันยายน ส่วนการประเมินสถาการณ์การชุมนุมของนักศึกษาของหน่วยงานด้านความมั่นคงนั้น พล.อ.สมศักดิ์ เผยต่อว่าการชุมนุมนั้นเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ยังยืนยันว่าจะไม่มีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาบังคับใช้กับการชุมนุม แต่หากการชุมนุมเป็นไปตามกรอบกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไรแม้ว่าจะกระจายไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศส่วนกรณีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับจากประเทศตรวจพบที่ รพ.รามาฯ นั้น ขอให้อยู่ในการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกันกับการพิจารณาทบทวนมาตรการใหม่ ซึ่งในวันศุกร์นี่จะมีการประชุมในเรื่องที่มีการผ่อนคลายมาตรการไปแล้วทั้งการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ ระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงการอนุญาตให้เข้าชมกีฬ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับทั้ง 3 กรณีที่ผ่อนปรนไปแต่ต้องสืบส่วนต่อไป HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สภาความมั่นคงแห่งชาติ