25 สิงหานี้ เชิญรับฟังแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ขอนำยานพาหนะส่วนบุคคลกลับมายังไทยทางด่านปาดังเบซาร์-สะเดา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายทางด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ได้เริ่มอนุญาตให้บุคคลสัญชาติไทยจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางในพื้นที่จังหวัดชายแดน ตั้งแต่วันที่ 18 เมษยนที่ผ่านมา โดยไม่ได้นำยานพาหนะส่วนบุคคลกลับเข้ามาด้วยนั้น ทางอำเภอสะเดาจึงขอแจ้งเจ้าของยานพาหนะสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะนำรถส่วนบุคคลกลับมายังประเทศไทยทุกท่าน ขอเชิญท่านเข้าร่วมประชุมรับฟังแนวทางปฏิบัติ ในการขอนำยานพาหนะส่วนบุคคลกลับมายังประเทศไทยทางด่านศุลกากรปาดังเบซาร์และด่านสะเดา ในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น. ณ อาคารศาลาประชาคม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : อำเภอสะเดา
ด่านสะเดา
นายด่านสะเดาย้ำไม่ปิด “ด่านสะเดา” หลังพบโควิดระบาดอีกในรัฐเคดาห์ ฝั่งมาเลย์ ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านสะเดา ได้เชิญสมาคมโลจิสติกส์จังหวัดสงขลา ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในด่านสะเดา ตัวแทนออกของ เจ้าหน้าที่หน่วยซีอาร์คิว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการขนส่งสินค้า มาประชุมชี้เแจงมาตรการเข้มงวดในการตรวจคัดกรองคนขับรถสินค้าที่เข้าออกด่านสะเดา เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่รัฐเคดาห์ ติดกับชายแดนไทย หลังจากที่คนมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย เป็นเจ้าของร้านอาหารที่บ้านนาปอ เมืองจังโหลน อ.จิตรา จ.อลอสตาร์ กลับจากประเทศอินเดีย ไม่ยอมกักตัวทำให้มีการแพร่เชื้อไปยังประชาชน และคาดว่ามีคนขับรถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ไปทานอาหารที่ร้านดังกล่าวด้วย “การระบาดที่รัฐเคดาห์ ตอนนี้พบติดเชื้อแล้ว 20 ราย และมีคนติดเชื้อเพิ่มวานนี้ อีก 5 ราย ยังต้องรอผลตรวจวันนี้อีก ทางเราได้ประสานด่านศุลกากรมาเลเซีย ในการตรวจเข้มคนไทย และรายงานความคืบหน้าการแพร่ระบาดเชื้อโควิดใกล้ด่านมาเลย์ ซึ่งเราจะประเมินสถานการณ์ทุก 7 วัน และทุก 14 วัน แต่ยังคงยืนยัน ไม่มีการปิดด่านสะเดา […]
จับได้เพิ่ม แรงงานต่างด้าวจำนวน 24 คนหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.สะเดา วันนี้(8/8/63) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสะเดา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 437 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5 ที่สถานีตำรวจชุมชน บ้านด่านนอก ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ได้จับกุมแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 24 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 8 ราย แบ่งเป็นชายชาวพม่า 11 ราย ชายชาวโรฮีนจา 5 ราย และหญิงชาวพม่า 8 ราย รวมเป็น 24 ราย โดยผู้หญิงพม่าทั้ง 8 รายในนี้ กำลังตั้งครรภ์ อายุครรภ์ระหว่าง 3-8 เดือน โดยทั้งหมดเดินทางกันมาเป็นครอบครัว และในเครือญาติ ทั้งหมดเดินทางมาจากประเทสมาเลเซีย […]
เชิญชวนชาวสงขลา รับฟังความคิดเห็นถนนสาย สข.4040 เชื่อมโยง สนามบินหาดใหญ่ – ด่านชายแดนสะเดาและด่านชายแดนปาดังเบซาร์ วันนี้ (5 ก.ค. 63) กรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่จังหวัดสงขลารับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการแนะนำโครงการสำรวจออกแบบส่วนต่อขยายถนนสาย สข.4040 แนวใหม่ด้านทิศใต้ แยก ทล.4145-ทล.4054 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ส่วนราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนในพื้นที่ ฯลฯ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการคุมเข้ม COVID-19 นายอนุพงค์ จงหวัง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทสงขลา กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการสำรวจออกแบบส่วนต่อขยายถนนสาย สข.4040 แนวใหม่ด้านทิศใต้ แยก ทล.4145-ทล.4054 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ว่า เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2562 กรมทางหลวงชนบท ได้ว่าจ้างผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบดำเนินการสำรวจออกแบบรายละเอียดโครงการสำรวจออกแบบถนนสาย สข.4040 แยก ทล.4135 (กม.8+300)-ทล.4145 อำเภอสะเดา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร จังหวัดสงขลา ได้ประชุมคณะอนุกรรมการการจัดการระบบการจราจรทางบกจังหวักขลา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 พิจารณาเห็นว่าโครงการสำรวจและออกแบบส่วนต่อขยายทางหลวงชนบท สข.4040 แนวใหม่ด้านทิศใต้ แยก ทล.4145-ทล.4054 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นโครงข่ายที่ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เชื่อมต่อไปสู่ชายแดน (ด่านชายแดนสะเดา และชายแดนปาดังเบซาร์) เพื่อรองรับปริมาณจราจรในอนาคตและการ สัญจรให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตลอดจนแก้ไขปัญหาด้านการจราจร โดยออกแบบให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และสนับสนุนการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) จากทางอากาศ ทางบกมุ่งสู่ชายแดนฯ อีกทั้ง ยังส่งเสริม และอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ให้กับจังหวัดสงขลา และพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงชนบท จึงได้ว่าจ้าง บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งคอนซัลแต้นส์ จำกัด ให้ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบส่วนต่อขยายถนนสาย สข.4040 แนวใหม่ด้านทิศใต้ แยก ทล.4145-ทล.4054 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ระยะทางรวมประมาณ 18 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และส่งเสริมศักยภาพพื้นที่เศรษฐกิจด่านการค้าชายแดน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาโดยมีกำหนดระยะเวลาศึกษาโครงการ 270 วัน เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 ถึง 9 มกราคม 2564 ทั้งนี้ ในส่วนของวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อศึกษาและคัดเลือกรูปแบบ หรือแนวสายทางที่เหมาะสม พร้อมศึกษาความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นในการดำเนินโครงการพร้อมประชาสัมพันธ์โครงการ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการดำเนินโครงการสำรวจออกแบบ และประมาณราคาถนนสาย สข.4040 แนวใหม่ด้านทิศใต้ แยก ทล.4145-ทล.4054 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร และออกแบบทางต่างระดับ 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.จุดตัดทางหลวงหมายเลข 4145 2.จุดตัดข้ามทางรถไฟสายใต้ 3.จุดตัดทางหลวงหมายเลข 4045 นอกจากนี้ ยังเป็นการศึกษาผลตอบแทนทางต้านการลงทุน และค่าความเสี่ยงในการลงทุนของโครงการเพื่อประสานความร่วมมือจากหน่วยงานในจังหวัดสงขลา และองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการอีกด้วย สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทางระหว่างอำเภอหาดใหญ่ บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา ต่อเนื่องไปยังด่านชายแดนปาดังเบซาร์ และด่านชายแดนสะเดา เป็นเส้นทางรองรับการขนส่งผลิตผล ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขยาย และเพิ่มประสิทธิภาพระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ พร้อมรองรับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต สามารถพัฒนา และยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทเพื่อเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายคมนาคมและการขนส่งด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สามารถยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน รวมทั้งช่วยบรรเทาปริมาณจราจรของถนนทางหลวง แก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณทางแยก และพัฒนาเป็นทางลัด (By pass) ทางเลี่ยง (Shortcut) ระหว่างอำเภอ จังหวัด ตลอดจนบรรเทาปริมาณจราจรบนทางหลวงหมายเลข 4 และระบบคมนาคมอื่น ๆ ที่มุ่งสู่ด่านชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สำนักงานและออกแบบกรมทางหลวงชนบท
เปิดด่านฟื้นการค้าชายแดนกระตุ้นส่งออกครึ่งปีหลัง สิ้นสุดโควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งฟื้นฟูการค้าชายแดนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์การค้าชายแดนจะยิ่งปรับตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีด่านไทย-มาเลเซีย จำนวน 2 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา/จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเปิดด่านถาวร เพราะการปิดด่านฯ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการทั้งส่งออกและนำเข้า เพราะไทยต่างก็ต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านกันมายาวนาน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการสินค้าไทยเป็นอย่างมากเพราะ ความนิยมในคุณภาพของสินค้าไทยซึ่งมีมาตรฐานสินค้าและความคุ้มค่าสูง นอกจากเราจะขายสินค้าให้เพื่อนบ้านได้มากแล้ว เรายังได้รับสินค้าที่มีความหลากหลายจากเพื่อนบ้าน ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นและยังได้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า ประชาชนคนไทยได้รับประโยชน์จากการได้ดุลการค้าเพื่อนบ้าน โดยในช่วงปี 2562 การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ในด้านมูลค่าการค้าชายแดนในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มาเลเซีย ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้า […]
แนวทางการส่งบุคคลสัญชาติไทยกลับภูมิลำเนาผ่านด่านถาวร อ.สะเดา ตั้งแต่ 31 ก.ค. เป็นต้นไป มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 แจ้งแนวทางปฎิบัติในการส่งบุคคลสัญชาติไทยที่ผ่านการกักตัวกลับภูมิลำเนา สำหรับบุคคลที่เดินทางผ่านด่านถาวร อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยให้ผู้ที่เข้ารับการกักกันตัวตามภูมิลำเนา ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยตนเอง เงื่อนไขมีดังนี้ 1.บุคคุลที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล จะถูกส่งไปดำเนินการกักตัวตามภูมิลำเนา 2.บุคคุลที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดสงขลา จะถูกส่งไปดำเนินการกักตัวตามภูมิลำเนา 3.บุคคลที่อยู่ในจังหวัดอื่นๆ จะอยู่ในสถานที่กักตัวอยู่ในสถานที่กักกันของจังหวัดสงขลา เมื่อได้กักตัว ครบ 14 วัน จะมีการส่งตัวกลับภูมิลำเนา ณ กรุงเทพมหานคร เพียงจุดเดียว โดยค่าใช้จ่ายในการกักตัว ค่าที่พัก ค่าอาหาร และการส่งตัวกลับ HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : […]