เทศบาลน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ เปิดรับลงทะเบียนเบี้ยผู้พิการและผู้สูงอายุ ปี 64 เนื่องจาก กรมบัญชีกลางได้ออกมา ชี้แจ้งการจ่ายเบี้ยคนชราและคนพิการที่ล่าช้าไม่ใช่ เพราะ รัฐบาลมีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่เกิดจากกระบวนการทางงบประมาณที่ต้องนำงบส่วนอื่นมาชดเชย และการคำนวณจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้มีผลกระทบอะไร ยังสามารถเบิกจ่ายได้เหมือนเดิม ส่วนในเดือน ต.ค.2563 ที่จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยคนชรานั้นยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอ ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน โดยในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว ซึ่งงบปรมาณในปี2564 ทางเทศบาลตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ ได้เปิดรับลงทะเบียนผู้สูงอายุและผู้มีการพิการ ให้มาลงทะเบียนขอรับเบี้ยเลี้ยงชีพตามโครงการของรัฐ ตามเอกสารที่แนบ อัตราการจ่ายเบี้ยความพิการ และ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จ่ายเบี้ยความพิการ จะได้รับ 800 บาท ต่อเดือน จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ […]
งบประมาณ
กรมบัญชีกลาง แจงเร่งจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ – ความพิการ ภายใน 22 ก.ย.นี้ ตามที่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้แจ้งทางหน้าเพจ facebook ท้องถิ่นไทย ว่า การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำเดือน ก.ย.63 มีความจำเป็นต้องเลื่อนการจ่ายเงิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณจากรายการอื่นมาจ่ายเป็นเงินเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุแล้ว โดยจะเร่งรัดจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันอังคารที่ 22 ก.ย.นี้ น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง แจงว่าตามขั้นตอนการดำเนินการ กรมบัญชีกลางจะต้องตรวจสอบงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายให้ผู้มีสิทธิตามปฏิทินการจ่าย แต่เมื่อตรวจสอบงบประมาณในเดือนกันยายน 2563 พบว่าไม่เพียงพอ สถ.จึงต้องจัดสรรเพิ่ม กรมบัญชีกลางจึงจะสามารถจ่ายได้ กรมบัญชีกลางห่วงใยและเข้าใจในความจำเป็นของผู้มีสิทธิทุกท่าน เมื่อ สถ.ได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว กรมบัญชีกลางจะดำเนินการจ่ายให้ผู้มีสิทธิอย่างเร่งด่วนต่อไป (ภายในเดือน ก.ย.63) ขอให้ติดตามข่าวจาก facebook กรมบัญชีกลาง อย่างใกล้ชิด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 […]
เร่งรัฐบาลหนุนงบประมาณป้องกันโควิด-19 ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การเตรียมความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้จากการประชุมร่วมกันระหว่างสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามทั้ง 5 จังหวัด( ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและสงขลา)ชมรมผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตามข้อเสนอเร่งด่วนในสถานกรณ์โควิด-19 ที่ได้ข้อสรุปนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณา ประกอบด้วย 1.รัฐสนับสนุนงบประมาณให้กับโรงเรียนรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 400,000 บาท และ 500,000 บาท ซึ่งในขณะเดียวกันโรงเรียนเอกชนต้องกู้ยืมและให้จ่ายคืนภายใน 1 ปี ดังนั้นจึงขอให้สนับสนุนงบประมาณจำนวนดังกล่าวเหมือนกับโรงเรียนรัฐบาล 2.ขอให้รัฐสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 จำนวน 8 รายการ ให้กับโรงเรียนเอกชนเช่นเดียวกับโรงเรียนรัฐบาล 3.ขอให้รัฐสนับสนุนเยียวยาครูเอกชนตามที่สำนักกงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)ได้สำรวจมา 4.ขอให้รัฐสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาโรงเรียนเอกชนตามที่ สช.ได้สำรวจมาแล้ว และ 5.ขอให้รัฐสนับสนุนงบปรับทัศนคติเด็กอายุ 1-5 ขวบ โดยแปรเป็นงบพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และเด็กอนุบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในประเด็นดังกล่าวทราบว่าขณะนี้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้บรรจุลงวาระไว้แล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าอีกไม่กี่วันโรงเรียนก็จะเปิดแล้ว แต่ว่าความพร้อมของโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ก็ยังไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : กรมข่าวประชาสัมพันธ์