สงขลา เรือหาปลาคว่ำใต้สะพานติณสูลานนท์ นักประดาน้ำพบร่างชาย 24 ปีจมน้ำเสียชีวิต (ชมคลิป) เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 63 เวลา 15.30 น. ได้เกิดเหตุชาวประมงพื้นบ้านนำเรือหางยาวออกหาปลาแล้วถูกคลื่นซัดจมหายไป เหตุเกิดในทะเลบริเวณใต้สะพานติณสูลานนท์(สะพานที่2) เขตอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยทางด้านหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ รับการประสานจากสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ขอสนับสนุนนักประดาน้ำมาทำการค้นหาร่างนายจารุกิตร์ สุขนุ้ย อายุ 24 ปี ทำอาชีพประมงพื้นบ้าน อยู่บ้านเลขที่127 ม.6 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งได้นำเรือหางยาวออกหาปลาตั้งแต่ช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้ แล้วเกิดคลื่นลมแรงทำให้น้ำทะเลมีคลื่นสูงพัดเรือพลิกคว่ำขณะจอดเรือหลบคลื่นอยู่ตรงตอม่อที่20 ใต้สะพานติณสูลานนท์(สะพานที่2ฝั่งไปอ.สิงหนคร)โดยนายจารุกิตร์ได้ตกลงไปในน้ำและจมหายไป นักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ พร้อมด้วยมนุษย์กบทหารเรือสงขลา ตำรวจน้ำสงขลา ได้กระจายลงค้นหาในบริเวณที่เรือคว่ำอยู่ราว 2 ชม. ก็ต้องยุติการค้นหาเนื่องจากน้ำทะเลเริ่มลง ทำให้กระแสน้ำไหลแรงไม่สามารถต้านแรงน้ำได้ ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น.ได้รับแจ้งว่าเจอศพแล้วอยู่ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร ทางญาติได้นำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อย ทางทีมข่าวหาดใหญ่ทูเดย์นิวส์ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตมา ณ ที่นี้ด้วย […]
ข่าววันนี้
จ.สงขลาเตรียมรับมือฝนตกหนักมากอีกระลอก ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. – 4 ธ.ค. 63 ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2 (79/2563) เรื่อง ฝนตกหนักภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2563 ) ซึ่งในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2563 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างหรือทางด้านหน้าเกาะบอร์เนียวมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนที่อาศัย ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าว ภาคใต้ฝั่งตะวันออก เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 […]
ป้ายทะเบียนรถ ท่านใดหล่นหายสามารถขณะน้ำท่วมถนนเส้นน้ำน้อย-สงขลา สามารถรับคืนได้ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 63 ที่ผ่านมาภาคใต้ได้รับผลกระทบฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ทำให้จังหวัดสงขลามีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันตั้งแต่วันที่ 26-28 พ.ย. 63 และเนื่องจากฝนตกสะสมทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณผิวจราจรระดับน้ำที่ท่วมรถเล็กไม่สามารถจัญจรได้ จนทำให้รถยนต์ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางต้องขับรถลุยน้ำทำให้ป้ายทะเบียนรถยนต์หลายคันตกหล่นในน้ำขณะน้ำท่วม จนระดับน้ำได้ลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติทำให้พบป้ายทะเบียนหล่นอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับบริเวณน้ำท่วมถนนเส้นน้ำน้อย สามารถรับป้ายทะเบียนคืนได้ที่ ปั๊มแก๊ส แอล.พี.จี น้ำน้อย ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง HATYAITODAYNEWS อ้างอิงภาพ : P’da Dkl
กรมเจ้าท่าสั่งหยุดการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว เนื่องจากเจอพายุคลื่นลมแรง นายสิทธิชัย ปั้นทอง นายช่างโยธาชำนาญงาน กรมเจ้าท่า หัวหน้าผู้ควบคุมงานก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ลงพื้นที่บริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา กล่าวว่าจำเป็นต้องหยุด เนื่องจากหาทางลำเลียงวัสดุหินที่เราจัดเตรียมไว้ออกมาไม่ได้ เพราะน้ำท่วมถนนขาดแล้วก็เลยไม่มีวัสดุหินมาเสริม ซึ่งจริงๆแล้วช่วงนี้สามารถทำงานได้ถึงแม้ว่าจะมีคลื่น แต่ในขณะนี้คลื่นมีกำลังแรงจึงจำเป็นต้องหยุดไว้ก่อน เพราะมันจะเกิดอันตรายกับเครื่องจักรด้วย ในส่วนวัสดุทั้งหลายที่อยู่ริมหาด พยายามตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาว่าจะกระทบอะไรหรือไหม แต่มีบางจุดที่ทำการก่อสร้างเป็นกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งเสร็จแล้ว ก็สามารถป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งได้เป็นอย่างดี ถนนเลียบชายทะเลก็จะไม่พังเหมือนที่ผ่านมา ในช่วงฤดูมรสุมฯปีนี้อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้ระดับหนึ่ง แม้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมามีกำลังแรง ทะเลมี คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ HATYAITODAYNEWS อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมเจ้าท่า
นิพนธ์ฯพร้อมด้วยผู้ว่าฯสงขลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำหลังมีฝนตกหนักทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่ในจ.สงขลา นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ได้สั่งการกำชับไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ให้ติดตามสถานการณ์สภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด เพราะช่วงนี้เป็นช่วงมรสุมและเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ มีสถานการณ์อยู่ที่ จ.สงขลา ได้แก่ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.สะเดา อ.ควนเนียง อ.สะบ้าย้อย อ.รัตภูมิ อ.สิงหนคร อ.บางกล่ำ อ.คลองหอยโข่ง อ.นาทวี อ.เทพา อ.เมืองสงขลา อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ และอ.นาหม่อม นอกจากนี้ได้มีประกาศในเรื่องการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม โดยได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (One Map) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ในช่วงวันที่สัปดาห์นี้ โดยให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ตั้งแต่ในพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป ตลอดจนการเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งอีกด้วย ทั้งนี้ การวางแผนเตรียมความพร้อมให้รัดกุม เพื่อลดความสูญเสียและบรรเทาสถานการณ์ความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด […]
พล.อ.ประวิตร ประกาศย้ำสนับสนุน ศอ.บต. ขับเคลื่อน”เมืองต้นแบบ จะนะ” มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช. เมื่อวานนี้ 27/11/2020 เวลา 14:24 น. ที่ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประชุมมีวาระสำคัญประกอบด้วย การรายงานความคืบหน้าการดำเนินปรับผังเมืองเพื่อรองรับเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ร ที่ประชุม ได้รับทราบรายงานความคืบหน้า เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1) การปรับผังเมือง เพื่อรองรับการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เกี่ยวกับการปรับใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม,คลังสินค้า และพื้นที่ชุมชน 2) การจัดสรรโควตาพลังงานไฟฟ้า 1,700 เมกะวัตต์ รองรับแผนการลงทุนผลิตไฟฟ้าของภาคเอกชน ตามมติ ครม.โดยมีกระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทยร่วมกับ ศอ.บต. จัดทำแผนงานให้แล้วเสร็จ ภายใน […]