สงขลา ส้มจุกจะนะขึ้นทะเบียน GI สามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาท
วันที่ 19 ต.ค. 64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ส้มจุกจะนะ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะทำให้ส้มจุกมีมูลค่าการตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต และกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาให้มีศักยภาพต่อไป เช่นเดียวกับไข่เค็มไชยา เมื่อเป็นสินค้า GI ซึ่งมีลักษณะพิเศษจากการเชื่อโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์และเป็นที่ยอมรับมาช้านาน ก็จะกลายเป็นสินค้าพรีเมียมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งที่จังหวัดสงขลามีสินค้า GI มาแล้วหนึ่งสินค้า คือ ส้มโอหอมควนลัง และตัวที่สองคือ ส้มจุกจะนะ จึงได้มอบหนังสือสำคัญการขึ้นทะเบียน GI ส้มจุกจะนะ ให้กับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกส้มจุกอย่างเป็นทางการ
โดยส้มจุกจะนะ คือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ชนิดที่สองของจังหวัดสงขลาเป็นส้มจุกสายพันธุ์เปลือกหนา ที่มีผิวหยาบ เป็นมันวาว และสายพันธุ์เปลือกบาง ผลดิบมีสีเขียวเข้ม เมื่อสุกมีสีเขียวอมเหลือง หรือเขียวอมส้ม ผิวเปลือกร่อน กลิ่นหอมจากต่อมใต้ผิวเปลือก เนื้อฉ่ำ นุ่ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว โดยมีแหล่งกำเนิดและการเพาะปลูกในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาและได้รับฉายาว่าเป็น “ส้มหอมหมื่นลี้”และเป็นส้มที่มีประวัติสืบทอดเป็นตำนานของจังหวัดสงขลามาหลายชั่วสมัย
ซึ่งผู้ประกอบการผู้ปลูกส้มจุกจะนะ ในพื้นที่อำเภอจะนะ มีจำนวนประมาณ 35 ราย ปริมาณผลผลิตต่อปีประมาณ 7,000 – 10,000 กิโลกรัม ซึ่งสร้างรายได้กับผู้ประกอบการต่อปีประมาณ 2,000,000 บาท ซึ่งเมื่อสินค้าขึ้นทะเบียน GI แล้วจะสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 200 บาท จากเดิมที่ยังไม่ขึ้นทะเบียน GI จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-80 บาท
อ้างอิง : จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ , สวท.สงขลา