ชายแดนไทย-มาเลย์ จ.สงขลา รั้วชายแดนถูกทำลาย เหตุเนื่องจากพบคนลักลอบเข้าเมือง
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 เวลา 10.00 น. ที่ หลักเขตชายแดนไทยมาเลเซีย ที่ 17 อ.สะเดา จ.สงขลา พลตรี ศานติ สกุนตนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา /ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต สุขสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ลงตรวจพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน พร้อมย้ำตรวจตรา เฝ้าระวังไม่ให้มีการตัดทำลายแนวรั้วชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งบริเวณดังกล่าว ชาวบ้านจะรู้จักกันดี ในชื่อของเนินนมสาว โดยจะมีรั้วแบ่งเขตแดนแบบคู่ระหว่างไทยและมาเลเซีย เป็นพื้นที่ล่อแหลม ที่กลุ่มขบวนการผู้ก่อเหตุรุนแรง มักใช้ลักลอบข้ามแดน และขนสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง โดยก่อนหน้านี้สามารถจับกลุ่มแรงงานลักลอบข้ามแดน ได้ชุดใหญ่
พลตรีศานติ สกุนตนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา/ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี เผยว่า ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวในมาเลเซียถูกผลักดันออกจากประเทศจำนวนมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่ฝั่งชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา มีพื้นที่แนวรั้วชายแนว ซึ่งมีระยะทางยาว มักพบมีการลักลอบทำลายรั้วชายแดนอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดตรวจพบการลักลอบตัดรั้ว บริเวณหลังที่ทำการด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ 3-4 ครั้ง ซึ่งได้สั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ เพิ่มความเข้มลาดตระเวน ตรวจสอบ หากพบรั้วถูกลักลอบตัดทำลาย ให้รีบซ่อมแซม พร้อมประสานฝ่ายปกครองให้พูดคุยกับทางมาเลเซียเพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง นอกจากนี้ยังได้ประสานการทำงานร่วมกับ ตำรวจตระเวณชายแดนในพื้นที่ ซึ่งผู้การท่านใหม่ ที่เพิ่งย้ายมา เป็นคนในพื้นที่ มีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี ก็จะมาช่วยเสริมด้านการข่าวและประสานการทำงานกับประเทศมาเลเซียอีกทางหนึ่ง ช่วยเสริมให้การดูแลแนวชายแดนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิง : กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า