จ.สงขลา คึกคัก ประชาชนแห่ใช้สิทธิ์ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าในโครงการคนละครึ่ง
อย่างที่ทราบกันดีว่าทางรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาคประชาชน และช่วยเหลือสนับสนุนร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบเป็นวงกว้าง ส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย โดยขณะนี้มี 2 มาตรการหลักๆ ที่เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ได้แก่มาตรการ “คนละครึ่ง” และมาตรการ “ช้อปดีมีคืน”
ในส่วนของโครงการคนละครึ่งซึ่งรัฐมุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่ายในร้านค้ารายย่อยหาบเร่ และแผงลอย โดยรัฐจะสนับสนุนเงิน 50% และผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องออกเอง 50% โดยกำหนดเงื่อนไขว่าในแต่ละวันวงเงินที่รัฐให้นั้นจะไม่เกิน 150 บาท/วัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทตลอดทั้งมาตรการ ซึ่งเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00-23.00 น. เท่านั้นในแต่ละวัน ปรากฏว่าที่จังหวัดสงขลา มีประชาชนออกมาใช้สิทธิกันตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม เป็นต้นมา
ทั้งนี้บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ มีความคึกคักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด เช่น ที่ร้านป้าจวง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของชำในหมู่บ้าน เขตเทศบาลตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีพี่น้องประชาชนมาจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพอย่างเช่นข้าวสาร อาหารแห้ง ฯลฯ
และที่เห็นได้ชัดเนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น จึงทำให้ประชาชนกล้าที่จะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน จนทำให้ร้านค้าต้องเตรียมซื้อสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค นอกเหนือจากสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพ ทั้งโลชั่น และเครื่องสำอาง หรือแม้แต่สินค้าที่มีคุณภาพ ที่ราคาค่อนข้างสูง พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ได้ออกมาตรการช่วยเหลือร้านค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19
อย่างไรก็ตามสิทธิคนละครึ่ง เหลือ 1 ล้านกว่าคนแล้วหากจำนวนสิทธิ์เต็มจะไม่สามารถลงทะเบียนได้
อ้างอิง : สวท.สงขลา