ผู้ว่าฯสงขลา ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนแก่ปชช.ในจังหวัด
วันที่ 10 พ.ค. 64 ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 26 ประจำปี 2564 โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ และมาตรการสำคัญของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ระลอกเดือนเมษายน 2564 รวมถึงพิจารณาการขยายระยะเวลาและการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แนวทางและมาตรการในช่วงฮารีรายอ รวมถึงการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์กักกันหรือสังเกตอาการกลุ่มผู้ป่วยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Local quarantine) กรณีผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากภายในประเทศ เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์การโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 ของจังหวัดสงขลาในวันนี้ (10 พ.ค.64) มียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จำนวน 20 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 855 ราย ติดเชื้อในประเทศ 851 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 338 ราย หายกลับบ้านแล้ว 514 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยทางทีมแพทย์ได้ดำเนินการตรวจค้นหาเชิงรุกทั้งหมด เพื่อนำผู้ป่วยมาเข้าสู่กระบวนการรักษา พร้อมทั้งมีการประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่
ในที่ประชุมได้ติดตามแผนการดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดสงขลาให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 33,145 ราย โดยฉีดวัคซีนไปแล้ว 10,225 ราย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย จำนวน 5,499 ราย ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2,154 ราย และกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังกว่า 330,000 ราย ซึ่งได้มีการจองคิวฉีดวัคซีนไปแล้ว 32,435 ราย โดยจองคิวผ่านระบบหมอพร้อม จำนวน 23,952 ราย และผ่านทางเจ้าหน้าที่ 8,483 ราย ส่วนประชาชนที่มีอายุ 18-59 ปี ที่มีจำนวน 529,215 ราย จะเริ่มเปิดจองฉีดวัคซีนในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ตามจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน ที่ต้องติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนให้ตระหนักรู้ พร้อมเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังบุคคลที่แอบลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการคัดกรอง เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการกักกันโรค และดำเนินคดีตามกฎหมายกำหนด
อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา