สธ.สงขลา ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติ 6 มาตรการหลัก เพื่อป้องกันโควิด – 19 ในระรอกสอง

สธ.สงขลา ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติ 6 มาตรการหลัก เพื่อป้องกันโควิด – 19 ในระรอกสอง

     นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ทั่วโลก ยังพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประกอบกับประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และถึงแม้ว่าประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมาตั้งแต่วันที่ 12 กรกฏาคม 2563 แต่เนื่องจากภายหลังการผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดระยะที่ 5 ทำให้ประชาชน เกิดความชะล่าใจ และขาดความใส่ใจต่อมาตรการการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเกิด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) แพร่ระบาดในระลอกที่สองต่อไปได้

     จังหวัดสงขลาจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ให้เป็นนิสัยด้วยชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยใช้หลัก 6 ประการ ได้แก่

1.รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร

2.สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกนอกบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ

3.หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือแอลกอฮอล์เจล

4.หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด โดยเฉพาะบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก วางแผนการเดินทางเมื่อต้องโดยสารรถสาธารณะเพื่อเลี่ยงความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน หากไปในสถานที่ต่าง ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการพบปะหรือการชุมนุมกันเป็นกลุ่มก้อน

5. หมั่นทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรืออย่างน้อยล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือผงซักฟอก

6. ลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ทุกครั้งเมื่อไปใช้บริการร้านค้าหรือสถานประกอบการต่าง ๆ เนื่องจากแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” จะทำให้สามารถติดตามบุคคลในสถานที่ที่อาจมีการแพร่ระบาดได้สะดวก ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดการขยายวงการแพร่ระบาดได้ทันท่วงที


สำหรับ หน้ากากอนามัยควรใช้แล้วทิ้งอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะถ้าใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ โดย

1.ถอดหน้ากากโดยมาสัมผัสด้านในของหน้ากากในส่วนที่สัมผัสกับหน้า

2.ม้วนสายคล้องพันรอบหน้ากาก

3.พับหน้ากากโดยให้ส่วนที่สัมผัสกับใบหน้าอยู่ด้านใน

4.ใส่ถุงและมัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง และล้างมือให้สะอาด

5.ควรทิ้งหน้ากากอนามัยในถุงที่มิดชิดทุกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค


ทั้งนี้ หากพบว่าตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดป่วย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ปวดเมื่อยตามตัว ให้ไปสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางและหยุดอยู่บ้าน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422  หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โทร 074 – 311170, 074 – 536504 – 7 ,มือถือ 093 – 5766411 (ในวันและเวลาราชการ)


สธ.สงขลา ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติ 6 มาตรการหลัก เพื่อป้องกันโควิด – 19 ในระรอกสอง

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์ข้อมูลโควิดสงขลา

Next Post

กรมจัดหางาน เตือนนายจ้าง/ผู้ประกอบการ อย่าใช้บริการนายหน้าเถื่อน นำเข้าแรงงานต่างด้าวเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19

Sat Jul 18 , 2020
กรมจัดหางาน เตือนนายจ้าง/ผู้ประกอบการ อย่าใช้บริการนายหน้าเถื่อน นำเข้าแรงงานต่างด้าวเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19     นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เผย หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้กรมการจัดหางานชี้แจงทำความเข้าใจกับนายจ้าง ผู้ประกอบการต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องนำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน หลังพบ อาจเป็นช่องทางให้ขบวนการนายหน้าและโบรกเกอร์เถื่อนอ้างกับนายจ้าง/ผู้ประกอบการว่าสามารถนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศได้ในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีมาตรการการเข้าประเทศของคนต่างด้าวที่เคร่งครัด และยังมีการปิดจุดผ่านแดนเข้าออกประเทศทั้งหมด โดยเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเกินจริง “ สิ่งที่เป็นปัญหาคือ มีขบวนการนายหน้าเถื่อน อ้างกับนายจ้างหรือผู้ประกอบการว่าสามารถนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศได้ โดยเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในอัตราสูง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการจัดหางานขอแจ้งว่า ผู้ที่จะดำเนินการนำเข้าแรงงานได้นั้นมี 2 กลุ่มคือ 1) นายจ้างดำเนินการด้วยตนเอง 2) มอบอำนาจให้บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ (บริษัทนำเข้า) ซึ่งจะต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมการจัดหางาน อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการให้ โดย ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 มีผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศ จำนวน 245 แห่งทั่วประเทศ เป็นผู้รับอนุญาตฯในกรุงเทพฯ 73 […]
กรมจัดหางาน เตือนนายจ้าง/ผู้ประกอบการ อย่าใช้บริการนายหน้าเถื่อน นำเข้าแรงงานต่างด้าวเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19