เจ้าหน้าที่จู่โจมวิสามัญฯ โจรใต้ 2 ศพ เหตุปะทะไล่ล่าคนร้ายลอบวางระเบิดที่ปัตตานี
ความคืบหน้าเหตุปะทะไล่ล่าคนร้ายลอบวางระเบิดที่ปัตตานี เกิดยิงกันรอบ 2 ขณะกระชับพื้นที่ เจ้าหน้าที่วิสามัญฯ โจรใต้ 2 ศพ จากเหตุเจ้าหน้าที่ยิงปะทะกลุ่มคนร้ายพื้นที่ป่าละเมาะในหมู่บ้านบือแนจือแล ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คาดเป็นกลุ่มวางระเบิดชุด รปภ.ครู
สถานการณ์ยังคงมีการปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลังเหตุปะทะครั้งแรกทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งในเวลานั้นพบว่าคนร้ายมีด้วยกัน 5 คนพร้อมอาวุธครบมือ สามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ได้เสริมกำลังเข้าปิดล้อมอย่างหนัก เพื่อกดดันและช่วงที่มีการเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัวนั้น ปรากฏว่าเกิดการยิงปะทะขึ้นอีกครั้งที่ 2 ซึ่งการปะทะครั้งที่ 2 กินเวลาร่วม 15 นาที เมื่อเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้เพราะ ไม่แน่ใจว่าคนร้ายหลบซ่อนตัวจุดไหน และบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนา มีป่าละเมาะสูง คนร้ายอาจจะฉวยโอกาสยิงใส่ ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับเสมอว่าขอให้ปฏิบัติภารกิจจากเบาไปหาหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระชับพื้นที่และ กดดันต่อเนื่องเพื่อหวังให้คนร้ายมอบตัว
จากนั้นชุดปฏิบัติการจู่โจมได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่จุดปะทะพบคนร้ายถูกวิสามัญ 2 ศพ ยึดอาวุธปืนคนร้าย 2 กระบอก ประกอบด้วย ปืนอาก้าและปืนสั้น ขนาด 9 มม. จึงได้ประสานไปยังแพทย์ รพ.ยะรัง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ทั้ง 2 ศพทราบชื่อ คือ
1.) นายมะซูกี สารูเมาะ พฤติกรรม หน.RKK ระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิ จำนวน 2 หมาย
2.) นายอันวา กอแล พฤติกรรม สมาชิกระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิ จำนวน 1 หมาย
ซึ่งการปิดล้อมยังคงดำเนินต่อไปตามยุทธวิธี เพราะเชื่อว่า ยังคงมีคนร้ายที่เหลืออีก 3 คนหลบหนีอยู่ในพื้นที่ และไม่สามารถหนีไปไหนได้ไกล ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังตรึงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง ภารกิจครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติต่อเนื่องของชุดจรยุทธ์ ในการไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองครู เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมไปถึงการดำเนินการปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายเพื่อกดดันและ ปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบหรือ แนวร่วมมีโอกาสออกมาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า / กองทัพภาคที่ 4