จ.สงขลาพร้อมแล้วขุดคลองไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าโลก แหล่งอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวระดับโลก
เมื่อวานนี้ (5 ต.ค. 63) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯพร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดสงขลา จัดสัมมนา รับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการขุดคลองไทย ให้เป็นศูนย์กลางการค้า, แหล่งอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวระดับโลกโดยมี นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับรวมถึงภาครัฐ, ภาคเอกชนและประชาชน เข้าร่วมรับฟังการสัมมนา ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ประเทศไทยมีชายฝั่งยาวถึง 3,148 กิโลมตร ครอบคลุมพื้นที่มาถึง 23 จังหวัดแต่กลับใช้ประโยชน์ เพื่อการค้าการท่องเที่ยวไม่ได้เท่าที่ควร สินค้าภาคใต้ก็ต้องลำเลียงผ่านพรหมแดนเพื่อนบ้านเพื่อไปขึ้นเรือขนสินค้าไปยังประเทศปลายทาง โดยต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือซึ่งกลายมาเป็นต้นทุนการส่งออกของสินค้าไทย ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย สส. ในสภาจากทุกพรรคการเมืองเดินเครื่องเรื่องการขุดคลองไทยพาชาติเจริญ หลังรอคอยมานานกว่า 400 ปี ในที่สุดโครงการยักษ์ของชาติ นั่นคือการขุดคลองไทย 9A ระยะทาง 135 กิโลเมตร จากฝั่งทะเล อันดามัน จังหวัดตรังกระบี่ ไปยังอ่าวไทยที่อำเภอระโนดจังหวัดสงขลา กำลังใกล้เป็นความจริง เมื่อสภาผู้แทนราษฎรจากทุกพรรคการเมืองได้เสนอต่อที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา และได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯอย่างเป็นทางการโดยได้เดินหน้าคลับเคลื่อนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง
ผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ คือ สินค้าการเกษตรของภาคใต้ อาทิ ยางพาราจะสามารถส่งถึงประเทศปลายทางได้โดยตรงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ประหยัดเวลาการขนส่ง ลดการพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านในการส่งออก มีอำนาจในการต่อรองราคาสินค้ามากขึ้นและชาวประมงสามารถเคลื่อนย้ายเรือประมงระหว่าง 2 ฝั่งทะเลได้สะดวก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่จากเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เกิดขึ้นตลอดแนว 2 ฝั่ง รวมถึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในภาคใต้ และดึงดูดให้เรือสำราญจากต่างประเทศเข้ามาใช้บริการ
ทั้งนี้ การสัมมนา รับฟังความคิดเห็น ของประชาชนในครั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมาธิการนำไปประกอบการวิเคราะห์และเสนอแนะต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา