รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงเหตุโจรใต้ ยิง-เผา ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ราย ที่ปัตตานี
จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แบบตอนเดียวสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผต 1917 สงขลา บรรทุกสินค้าประเภทโฟมและพลาสติก ทำให้เกิดเพลิงไหม้ทั้งคัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดบริเวณร่องน้ำเกาะกลางถนนหมายเลข 42 พื้นที่ บ.ละหาร ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย.64 เวลา 06.30 น.
พ.อ. วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ขับขี่รถยนต์กระบะดังกล่าวมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อไปส่งสินค้าประเภทโฟมและพลาสติกที่ จ.นราธิวาส โดยมี นายสุพร กิตติประภานันท์ เป็นคนขับ ส่วนบุตรสาวกับหลานชายนั่งอยู่ด้านข้าง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนหมายเลข 42 บ.ละหาร ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนร้ายจำนวน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน เป็นพาหนะขับตามหลังก่อนที่จะเข้าประชิดตัวรถ คนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดออกมากราดยิงทันที นายสุพรฯ จึงได้เร่งเครื่องหวังที่จะหนีเอาชีวิตรอด โดยบุตรสาวและหลานชายได้หมอบอยู่ข้างๆ ขณะนั้นคนร้ายยังคงขับไล่ตามประกบยิงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งรถของนายสุพรฯ เสียหลักชนต้นไม้บริเวณข้างทางและไถลตกลงบริเวณร่องน้ำเกาะกลางถนน จากนั้นคนร้ายได้ลากตัวนายสุพรฯ และ นายสัณห์พิพัฒฯ (หลานชาย) ออกจากรถแล้วยิงซ้ำจนนายสุพรฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายสัณห์พิพัฒฯ เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. นอกจากนี้คนร้ายยังแสดงความโหดเหี้ยมด้วยการกราดยิงใส่รถอีกชุดใหญ่ทำให้ นางสาว จิราพรฯ (บุตรสาว) เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ก่อนจะราดน้ำมันจุดไฟเผารถยนต์ซ้ำทำให้เกิดเพลิงรุกไหม้วอดทั้งคัน หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ไปตามเส้นทางหมายเลข 42 มุ่งหน้าไปทาง จ.ปัตตานี
สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายสุพร กิตติประภานันท์ อายุ 58 ปี (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) น.ส.จิราพร กิตติประภานันท์ อายุ 28 ปี บุตรสาว นายสุพร (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) และนายสัณห์พิพัฒ กิตติประภานันท์ อายุ 28 ปี หลานชาย นายสุพร (เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี) โดยทั้งสามคนอยู่บ้านเลขที่ 5 ถ.คลองยาเหนือ 11 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งภายหลังทราบเหตุ พล.ท. เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นเพียงชาวบ้านที่ทำมาหากินตามปกติ แต่กลับต้องมาถูกคนร้ายกระทำอย่างโหดเหี้ยมทารุณ บ่งบอกถึงพฤติกรรมอำมหิตผิดวิสัยของมนุษย์ นอกจากนี้ยังก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการทำความดีละเว้นความชั่วทั้งปวง แต่กลุ่มคนร้ายกลับมุ่งที่จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ยังจะต้องได้รับผลกรรมตามบทบัญญัติแห่งอิสลาม จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้รวมพลังต่อต้าน และประณามการกระทำดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง เพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายสุดโต่งพวกนี้มีที่ยืนในสังคมได้อีก พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีบูรณาการกำลังร่วมกับทุกภาคส่วน เร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
อ้างอิง : กรมประชาสัมพันธ์