เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 10 – 13 มี.ค.นี้ เพื่อป้องกันผลกระทบน้ำเค็มรุกแหล่งผลิตน้ำประปา
วันที่ 9 มี.ค. 64 ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ว่าลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนบางแห่ง โดย 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางบริเวณ จ.กาญจนบุรี 51 มิลลิเมตร , จ.สงขลา 45 มิลลิเมตร และ จ.ชลบุรี 40 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักน้ำน้อยถึงน้ำมากและมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การ แหล่งน้ำทุกขนาด 19,260 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 33 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 14,194 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 30 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 11 แห่ง
ทั้งนี้ กอนช.ได้ติดตามคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาสถานีสูบน้ำสำแลมีค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐานในบางช่วงเวลา และช่วงวันที่ 10 – 13 มีนาคมเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง เพื่อให้มีปริมาณน้ำในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมคุณภาพน้ำกรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการ แบ่งเป็น วันที่ 8 มีนาคม เพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกจากอัตรา 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และช่วงวันที่ 9 – 12 มีนาคม ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตรา 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นลดเหลืออัตรา 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที // ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากอัตรา 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีช่วงวันที่ 8 – 11 มีนาคม จากนั้นลดเหลืออัตรา 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสุดท้าย ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาจาก 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีช่วงวันที่ 1 – 2 มีนาคม ซึ่งน้ำจะหนุนมาถึงสถานีสูบน้ำสำแลประมาณวันที่ 10 มีนาคม ทั้งนี้ กอนช. ได้ให้หน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี มีค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐานบริเวณปากแม่น้ำ
อ้างอิง : กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ