จังหวัดสงขลา เพิ่มความเข้มตั้งด่านคัดกรองโควิดเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันที่ 17 ต.ค. 64 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินมาตรการตรวจคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ในเส้นทางสายหลักที่เชื่อมต่อไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ด่านตรวจบ้านมุนี ตำบลจะแหน เส้นทางระหว่างอำเภอสะบ้าย้อย กับอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา และด่านตรวจบ้านโหนด ตำบลบ้านโหนด เส้นทางระหว่างอำเภอสะบ้าย้อย กับอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละหลายร้อยคนมากว่า 1 สัปดาห์ โดยมีนายนพพร หนูเพชร นายอำเภอสะบ้าย้อย พันตำรวจโท ถาวร ผลกล้า รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ อสม.ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ พร้อมกันนี้ได้นำหน้ากากอนามัย เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และน้ำดื่มมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งขณะนี้จังหวัดสงขลามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันค่อนข้างสูงประมาณ 400 – 600 คนต่อวัน จากการตรวจคัดกรองหาผู้สัมผัสเชื้อเชิงรุก แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการป้องกันการรับเชื้อจากพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูงเช่นเดียวกัน อย่างจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ก็จะทำให้การแก้ปัญหาในจังหวัดสงขลานั้นจะดำเนินการได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
ส่วนมาตรการในพื้นที่รอยต่อนั้น จะเป็นการขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่จะเดินทางผ่านเข้ามาในจังหวัดสงขลา ให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการขอเข้าพื้นที่ ซึ่งหากมีความจำเป็นที่จะเดินทาง ต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามที่กำหนด มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 มีเอกสารรับรองว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อมาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือมีเอกสารรับรองว่าครบกำหนดการกักกันตัวแล้ว 14 วัน แต่ทั้งนี้ต้องเดินทางภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่วันที่พ้นจากการกักกันตัว นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคอยสอบถามความจําเป็นผู้เดินทางก่อนเข้าพื้นที่ หากมีเหตุผลไม่เพียงพอ หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีความเร่งด่วน หรือได้รับข้อยกเว้น
อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา