ม.อ.รับมือวิกฤติ covid-19 พร้อมยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต

ม.อ.รับมือวิกฤติ covid-19 พร้อมยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต

ม.อ.รับมือวิกฤติ covid-19 พร้อมยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต

 การประชุมสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นการประชุมทางไกลโดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธาน  และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้การรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้นวึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน การบริการนักศึกษา คุณภาพของบัณฑิตและการได้งานของบัณฑิต

ม.อ.ได้ปรับแผนใน 4 ยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต

1. ยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

2. ยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าเพิ่มจากงานวิจัยและนวัตกรรม เน้นสร้างนวัตกรรมด้านการจัดการภัยพิบัติ การศึกษาผลกระทบและการแก้ปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคม สุขภาพ

3. ยุทธศาสตร์พันธกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สังคมชุมชนในเรื่องเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต การเพิ่มการจ้างงานให้กับชุมชนภายใต้ภารกิจของมหาวิทยาลัย

4. ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทาง Digital ของทุกวิทยาเขต พัฒนาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของบุคลากรให้สามารถทำงานทุกพื้นที่ทุกสถานการณ์

ในวิกฤติการระบาดของโรคซึ่งสร้างปัญหาให้ทุกภาคส่วนทั่วโลกในวันนี้ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในอนาคตซึ่งทุกคนต้องปรับตัว การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นเหตุการณ์ที่จะไม่จบลงในระยะเวลาอันสั้น เรื่องใหญ่ที่จะตามมาคือการเกิดผลกระทบเชิงสังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การได้งานทำของบัณฑิต อาจเป็นโอกาสสำหรับหลายฝ่ายรวม ทั้งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งที่ก่อนหน้านี้ถูกจำกัดโดยระบบแบบเดิม เช่น ปรับรูปแบบการศึกษาแนวใหม่ที่สมบูรณ์แบบมีคุณภาพดีกว่าเดิม และสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรามีโอกาสแสดงศักยภาพในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อการนำร่องโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติภูเก็ตที่มีแผนไว้แล้ว ซึ่งถ้าโครงการนี้ได้ดำเนินการเต็มรูปแบบ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะสามารถปักธงด้านสุขภาพในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และสามารถนำข้อมูลที่ได้รับการกลั่นกรอง การสังเคราะห์อย่างเป็นระบบและแม่นยำสู่การวิจัยเชิงลึก และสามารถให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้บริหารเพื่อการแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ม.อ. ที่พร้อมต่อการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเป็นต้นแบบในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเรื่องความปลอดภัยในชีวิต การสร้างภูมิคุ้มกันจนได้รับการยกย่องทั่วประเทศ มีบุคลากรจิตอาสาที่ทำงานเชิงรุกเพื่อสนองพันธกิจต่อสังคมและสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก ที่ให้นึกถึงประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว

 

Next Post

สธ.เผยผลสำรวจพบประชาชนร้อยละ 4 ไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ

Mon Apr 27 , 2020
สธ.เผยผลสำรวจพบประชาชนร้อยละ 4 ไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ วันที่ 26 เมษายน 2563 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ประชาชนเริ่มผ่อนคลายจากจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการเดินทาง พบปะกันมากขึ้น ที่สำคัญ คือ ต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันโรค การรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ไม่สัมผัสจมูก ปาก หรือขยี้ตา ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากของประชาชนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ต่อเนื่องจำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งที่ 5 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อมีอาการไข้ และหวัด เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ประชาชนจะสวมหน้ากากป้องกันการแพร่เชื้อถึงร้อยละ 83 และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้รับเชื้ออีกร้อยละ 12 […]
ปกข่าวสำหรับเว็ป [recovered] 01