สัมภาษณ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา วิกฤต ผลกระทบ และโอกาสในภาคธุรกิจหาดใหญ่-สงขลา
ในช่วงที่ผ่านมานั้นสำนักข่าว Hatyaitodaynews ได้ลงพื้นที่ไปยังสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เพื่อสัมภาษณ์ คุณ สรุพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ในประเด็นเศรษฐกิจพื้นที่ หาดใหญ่-สงขลา ในแง่วิกฤต ผลกระทบ และโอกาสในภาคธุรกิจ ผ่านการสัมภาษณ์ผ่าน 6 คำถามสำคัญ ที่จะทำให้ท่านทราบถึงสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรา
1.ภาวะเศรษฐกิจในหาดใหญ่-สงขลามีความเป็นมาอย่างไรครับ
เมื่อมองมายังสภาพความเป็นมาของเมืองหาดใหญ่-สงขลาบ้านเรา ตั้งแต่ไหนแต่ไรเมืองของเราก็จะมีจุดขายอยู่ไม่มากนัก ในอดีตคนที่รู้จักหาดใหญ่-สงขลาก็คือเป็นเมืองซื้อของฝาก ซื้อของหนีภาษี แล้วก็เป็นแหล่งอาหารการกินที่ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดในภาคใต้ครับ ในช่วงเศรษฐกิจดีก็ทุกอย่างก็เติบโตมาอย่างตลอด แต่ในช่วงก่อนโควิด-19 ประมาณสัก 5 ปีเห็นจะได้ครับ ทางประเทศมาเลเซียเองก็เจอสภาวะเรื่องของเศรษฐกิจนะครับ เป็นเรื่องเงินเหรียญริงกิตมูลค่าลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องการเมืองภายในประเทศครับ ของบ้านเราเองก็มีปัญหาเรื่องของการเมืองที่กำลังติดพันกันอยู่ช่วงนั้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจช่วงดังกล่าวทั้งหมดทรุดหนักพอสมควร ไม่เพียงเท่านั้นบางส่วนที่ยังพอมีกำลังก็ประคับประคองบางส่วนก็พยายามวิ่งหาแหล่งเงินนะครับที่ทางภาครัฐเองได้พยายามเปิดหลายช่องทางให้ได้ แต่ข้อเท็จจริงแล้วก็จะมีธุรกิจระดับย่อยลงไปนะครับที่เข้าถึงแหล่งเงินค่อนข้างยากนะครับซึ่งยังเป็นปัญหาอยู่
2.หากจะพูดถึงภาพรวมเศรษฐกิจในพื้นที่หาดใหญ่-สงขลา ณ ปัจจุบันนี้มีลักษณะเป็นอย่างไร
ต้องยอมรับว่าสภาพของเศรษฐกิจโดยรวมเรียกว่าก็ย่ำแย่พอสมควรครับ ก่อนที่ Covid-19 เข้ามาเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาโดยภาพรวมแล้วสามารถสร้างรายได้กว่า 6 พันล้านบาทต่อปี แต่เมื่อโควิด-19 เข้ามาทุกอย่างก็เป็นศูนย์หมดครับ อันที่จริงก็ไม่ต่างกันกับหลายๆ เมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่พื้นที่หาดใหญ่-สงขลาดูจะหนักหน่อย เนื่องจากว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มลูกค้าที่เป็นเพื่อนบ้านชายแดนมากกว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวจากภาคอื่นๆ หลากหลายภาคธุรกิจจำเป็นต้องพยายามประคับประคอง แต่ธุรกิจที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวและการโรงแรม ร้านอาหาร ของที่ระลึก ร้านนวดแผนโบราณรวมถึงบริษัทท่องเที่ยวบริษัททัวร์ต่างๆเหล่านี้ค่อนข้างลำบากครับ
3.แนวโน้มเศรษฐกิจหาดใหญ่-สงขลา ในอนาคตข้างหน้าจะมีทิศทางใด
ตอนนี้ทางภาครัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ได้พยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศครับป็นนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยการที่มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน การท่องเที่ยวกับกลุ่ม อสม. จะได้ผลมากหรือน้อยก็ก็ต้องดูระยะหนึ่งและการทำธุระในการทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ ปัญหาของมันไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ แต่เมื่อเริ่มแล้วมันก็จะเจอปัญหาอุปสรรคเยอะมากนะครับตอนนี้ในส่วนของภาคเอกชน เราเองก็พยายามจะปรับดูการปรับตัวก็จะมีอยู่ 2 ถึง 3 ส่วน คือ การที่จะต้องพยายามหาแหล่งทุนเพื่อที่จะมาต่อยอดซึ่งเดิมทีเดียว 3 ถึง 4 เดือนที่หยุดไป กลุ่มนึงก็พยายามดิ้นรนหาแหล่งเงินเพื่อที่มาต่อยอด อีกกลุ่มนึงก็พยายามที่จะปรับตัวเองในเรื่องของการสร้างมาตรฐานครับ ผ่านทางกระทรวงท่องเที่ยวและทางสาธารณสุขครับ ที่ได้มีการทำโครงการ SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) เพื่อเป็นการรับรองว่าเป็นสถานที่ที่ที่ได้มีการทำตามมาตรการต่างๆ จะเปรียบเป็นการเล่นกีฬาการมีมาตรฐานต่างๆ ก็เหมือนกับคุณจะต้องวอร์มวอร์มร่างกายตลอดเพื่อรอถึงเวลาแข่งขันจริงๆ
เมื่อมองไปยังประเด็นในอนาคตที่จะมีคนเข้ามามากมายคงจะต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ซึ่ง ณ วันนี้ธุรกิจในหาดใหญ่-สงขลาเราเอง ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับบริษัททัวร์ที่มีความสัมพันธ์เดิมกับทางบริษัททัวร์มาเลเซีย ได้คุยกันว่าเร็วที่สุดน่าจะเป็นตุลาคมจึงจะมีโอกาสที่จะมีนักท่องเที่ยวจากทางเพื่อนบ้านเราเข้ามาแต่บางกระแสก็บอกว่าอาจต้องรอไปถึงต้นปีก็เป็นไปได้ ตรงจุดนี้ผู้ประกอบการกลุ่มที่พอมีกำลังก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง ส่วนกลุ่มที่มีกำลังน้อยและทุนสำรองหมดไปแล้ว จากนี้ไปก็จะเริ่มเป็นปัญหาเยอะขึ้นทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นลูกโซ่อื่นๆ อีกเยอะทีเดียว
ทางภาครัฐได้มีการช่วยเหลือด้านการเงินภาครัฐมีหลายมาตรการนะครับ ผ่านมาทางสถาบันการเงินนะครับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ไม่ใช่ง่ายนักครับ เพราะผู้ประกอบการระดับกลางลงไปถึงรายย่อย มีโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งเงินค่อนข้างที่ยาก เป็นผลมาจากระดับของผู้ประกอบการเกรดไม่ได้ดีมากนัก แน่นอนว่าทางธนาคารก็จะต้องเลือก เพื่อกันความเสี่ยงกับธนาคารนะครับ อีกปัญหานึงจะติดในเรื่องของหลักประกันนะครับ โดยเฉพาะบริษัททัวร์บริษัทนำเที่ยวที่ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือในรูปของบริษัท ยกตัวอย่างในหาดใหญ่-สงขลาเราแน่นอนมีเกิน 200 รายนะครับแต่ 200 รายนี้น่าจะมีไม่เกินสัก 20-30 บริษัทที่จดทะเบียนรูปบริษัทนิติบุคคล ส่วนที่เหลือน่าจะเป็นการจดทะเบียนพาณิชย์มากธุรกิจนำเที่ยวซึ่งก็มันหลุดจากกรอบคำว่านิติบุคคลไป กลุ่มนี้จะไม่ได้นะครับตรงนี้ทางผมเองก็ได้มีการนำเสนอแล้วก็ผ่านไปทางหลายหน่วยงานนะครับว่านิติบุคคลถ้าเราเราเอาผู้ประกอบการประเภทที่จดทะเบียนนำเที่ยวหรือจดทะเบียนทางด้านพาณิชย์ต่างๆเหล่านี้เข้ามาอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไหมถ้ามันได้อยู่ในกลุ่มเดียวกันก็จะช่วยเขาจะเยอะนะครับ
4.ถ้าหากว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซียสามารถเข้าในประเทศในช่วงมาต้นปีจริงๆ จะมีวิธีอื่นไหมที่จะช่วยเหลือเศรษฐกิจในบ้านเรา เช่นกรณีที่เราไปเที่ยวกันเองจะมีส่วนช่วยได้มากขนาดไหน
การที่จะระดมให้คนไทยเที่ยวไทยกันเอง ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านทีเดียวนะครับในเรื่องของการเตรียมความพร้อมในแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่นว่าทางภาครัฐส่งเสริมให้อสม.ได้เที่ยวโดยผ่านให้บริษัททัวร์นำเที่ยวบริษัททัวร์เหล่านั้นก็จะต้องดูว่าโปรแกรมไปเที่ยวต่างจังหวัดจังหวัดไหนน่าสนใจหรือไม่และตรงประเด็นนี้ต้องดูว่ายังหาดใหญ่-สงขลาเราเอง มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าจังหวัดอื่นถึงจะดึงกลุ่มนี้มาได้หรือในแต่ละท้องถิ่นครับ
ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้พอสมควรครับ ท่านเลยได้มีการทำโครงการต่างๆ โดยให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมคิดร่วมคุยกันว่าจะทำอะไรเพื่อเป็นจุดขายบ้างตอนนี้ แนวคิดอย่างนึงที่ท่านได้ทำอยู่ก็คือโครงการสงขลามาเด้ครับ เพื่อนำเสนอว่าสงขลามีอะไรบ้าครับ มีอาหารการกินที่ราคาถูก มีที่พักที่ราคาถูก และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวปลอดภัยครับ ทางผู้ประกอบการเองก็ขานรับพอสมควรครับในจุดนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือถ้าหากในส่วนราชการได้พยายามที่จะให้คนของภาคเอกชน และภาคราชการเองออกมาสัมมนาออกมาประชุมออกมาดูงานในแต่ละจังหวัดมากขึ้น เช่น จากจังหวัดพัทลุงมายังสงขลาสงขลา หรือไปสัมมนาที่จังหวัดอื่น เป็นไปตามลักษณะดังกล่าว ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับทุกส่วนครับว่าจะจะบูรณาการได้ในรูปแบบไหน
5.แนวโน้มการท่องเที่ยวที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจหาดใหญ่-สงขลา จะเป็นแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสัมมนาและกลุ่มใหญ่ใช่หรือไม่
อันที่จริงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มสัมมนากลุ่มประชุม และอีกกลุ่มนึงคือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นคณะใหญ่ๆเหมือนอย่างในอดีต จากนี้ไปก็จะน้อยลงเพราะว่าในเรื่องของความไม่เชื่อมั่นในเรื่องของโรค สิ่งที่สำคัญคือหาดใหญ่-สงขลาเรามีกิจกรรมอะไรที่อยู่ต่อเนื่องนะครับอย่างทุกวันนี้เราก็มีทุกๆ อย่างในเสาร์แรกและเสาร์สุดท้ายมีถนนคนเดินครับ ซึ่งทางสมาคมสมาพันธ์ร่วมกับจังหวัดสงขลา และยังมีอีกหลายกิจกรรมครับที่ทางรัฐบาลได้มีงบประมาณในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลายๆหน่วยงานจากนี้ไปจะมีภารกิจเข้าไปช่วยทำเรื่องนี้มากขึ้นครับ ถ้าหากว่าสิ่งเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา มีการประชาสัมพันธ์ออกไปข้างนอกจะทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงเราเกิดแรงดึงดูดให้ไปหาดใหญ่-สงขลา มากขึ้นครับ
6.มีอะไรอยากจะฝากถึงผู้ประกอบการนับตั้งแต่รายย่อยเป็นถึงรายใหญ่มีพื้นที่หาดใหญ่-สงขลา
ในแง่ของภาวะเศรษฐกิจและการทำธุรกิจในช่วงนี้น่าเห็นใจผู้ประกอบการมากครับ แต่อย่างไรก็ตามในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสในตัวมันเองครับ เลยอยากจะฝากเพื่อนๆพี่น้องที่อยู่ในวงการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนะครับทุกท่าน ถ้าสามารถอดทนได้ ก็อดทนกันก่อนนะครับเพราะว่าผมเชื่อว่าหลังจากนี้ไปเมื่อทุกอย่างมีการผ่อนคลายแล้วหลายๆอย่างก็จะดีขึ้นกว่าเดิมครับ รวมถึงเดือนตุลาคมไปในหาดใหญ่บ้านเรายังมีการท่องเที่ยวเชิงเทศกาล ซึ่งทางสมาคมสมาพันธ์แล้วก็จัดทุกปีไม่ว่าจะเป็นเทศกาลกินเจ งานไหว้พระจันทร์ งานปีใหม่รวมถึงงานสงกรานต์ก็คิดว่าในหลายๆส่วน หากทางผู้ประกอบการมีปัญหาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการเงินเหล่านี้ อยากจะให้ออกมาพูดถึงแล้วก็เข้าไปประสานงานกับหน่วยงานที่ทางภาครัฐให้มาโดยตรงก็คืออย่างธนาคารต่างๆนะครับ และหากว่ายังติดขัดปัญหาอะไรที่คิดว่าพอจะเอาไปพูดคุยผลักดันกันต่อในระดับบนก็ส่งเสียงมาที่ผมก็ได้นะครับก็ยินดีที่จะเข้ามาช่วยดูแลครับ
ทั้งนี้ทาง คุณสุรพล ยังได้ให้แนวคิดสำคัญในการที่จะสร้างจุดขายให้กับหาดใหญ่-และสงขลา ไม่ว่าจะเป็นเมืองแห่งการศึกษา ศักยภาพในการเป็น Medical Hub รวมถึงการเป็น MICE City แต่ยังแผนการพัมนาระยะยาวที่ได้รับความร่วมมือจากทั้งสามไตรภาคี ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนจังหวัด ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำให้คนจากภายนอกมีภาพในใจเป็น Top of mind ว่า เมื่อมาหาดใหญ่แล้วท่านจะได้พบกับการศึกษาที่ดี การแพทย์ที่ยอดเยี่ยม การเดินทางที่สะดวกปลอดภัย เมืองสะอาดน่าอยู่ และเป็นเมืองตัวอย่างด้านพหุวัฒนธรรม ถ้าเราทำจุดตรงนี้ได้สำเร็จหาดใหญ่และสงขลา จะพัฒนาและเป็นเมืองที่มีจุดขายในที่สุด
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม : สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา