จังหวัดสงขลา ส่งผู้แสวงบุญเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย
วันที่ 12 มิ.ย. 65 ที่ศูนย์อำนวยการความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ภายในอาคารอเนกประสงค์ ภายในท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา จัดให้มีพิธีส่งและอำนวยพรแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2565 (ฮ.ศ.1443) เที่ยวบินปฐมฤกษ์ โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพร มี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การประกอบพิธีฮัจย์ นอกจากจะเป็นศาสนกิจตามหลักของศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้แสวงบุญรู้จักเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น พี่น้องประชาชนที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จะต้องอยู่ในกฎระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพราะทุกคน คือ ผู้แทนของประเทศไทย ขอให้ทุกท่านตั้งใจปฏิบัติศาสนกิจให้สมบูรณ์ตามแบบฉบับของท่านศาสดา และขอให้มีสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์แข็งแรง ปฏิบัติตนตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด และมีความปลอดภัยตลอดการเดินทาง พร้อมอำนวยพรให้ผู้แสวงบุญทุกท่านเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์โดยสวัสดิภาพ มุ่งสู่พิธีฮัจย์ศาสนกิจที่ยิ่งใหญ่ของอิสลาม

ภายในพิธีจัดให้มีการอัญเชิญคัมภีร์อันกุรอาน การกล่าวอำนวยพร และการกล่าวขอดูอาร์ ซึ่งบรรยากาศในวันนี้ เป็นไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ทั้งผู้แสวงบุญ และญาติพี่น้องที่มารอส่งกันเป็นจำนวนมาก โดยมีจิตอาสาพระราชทาน 904 จิตอาสาจังหวัดสงขลา และลูกเสือจิตอาสาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมอำนวยความสะดวก

สำหรับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จะมีพี่น้องมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นจำนวนมาก “ฮัจย์” จึงเป็นแหล่งรวมประชาคมโลกมุสลิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ที่ทุกคนพร้อมใจกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในภารกิจที่ศาสนาอิสลามกำหนด

รัฐบาลไทยได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ตลอดมา เพื่อให้พี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย และได้ประกอบศาสนกิจอันสำคัญยิ่งอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การประกอบพิธีฮัจย์ นอกจากจะเป็นการประกอบศาสนกิจที่ถูกกำหนดไว้ในศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เราได้รู้จัก และศึกษาเรียนรู้จากผู้คนจำนวนมาก
ดังนั้น พี่น้องมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ต้องพยายามแสดงเอกลักษณ์ความเป็นมุสลิมไทยที่ดีงามอย่างโดดเด่นให้กับพี่น้องมุสลิมประเทศอื่น ๆ ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ นั่นคือการรักษาศักดิ์ศรีของมุสลิมไทยที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และรักความสันติ พี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จึงถือได้ว่าเป็นผู้แทนประเทศไทย ที่เป็นทูตสันติภาพในการสร้างสันถวไมตรีกับประชาคมโลก เพราะฉะนั้นพี่น้องทุกคนจงภูมิใจเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ ที่ภาคภูมิใจกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในครั้งนี้ด้วย
อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา