เฮ ราคาปาล์มขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลเผยพร้อมพัฒนาระยะยาว

เฮ ราคาปาล์มขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลเผยพร้อมพัฒนาระยะยาว

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ระดับราคาปาล์มน้ำมันตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมาได้ขยับตัวสูงขึ้น สูงกว่าราคาที่รัฐบาลได้ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ปัจจัยสำคัญมาจากการดำเนินการของภาครัฐที่ได้ออกมาตรการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด ได้แก่ 1) กำหนดให้น้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นน้ำมันมาตรฐาน แทน B7 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณปีละ 2.2 ล้านตัน และส่งเสริม B20 ให้เป็นพลังงานทางเลือก 2) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 3.6 แสนตัน ซึ่งได้ดำเนินการครบแล้ว 3) ผลักดันการส่งออกนำ้มันปาล์มส่วนเกิน 3 แสนตัน ภายในปี 2564 และ 4) เดินหน้าติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบของโรงงาน เพื่อทราบปริมาณน้ำมันที่มีอยู่จริงซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญต่อการบริหารสต๊อกให้มีเสถียรภาพ

ส่วนเรื่องการป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ราคาพืชผลเกษตรลดลงและชาวสวนปาล์มมีความกังวลอยู่ ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีมาตรการป้องกันไว้ คือ การกำหนดด่านเฉพาะ 3 ด่าน ที่อนุญาตให้นำเข้าสินค้าน้ำมันปาล์ม ได้แก่

1) ด่านศุลกากรมาบตาพุด
2) สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
3) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง

สำหรับการนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มไปยังประเทศอื่น อนุญาตให้มีด่านต้นทางเพียงแห่งเดียว คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ มีด่านปลายทาง 3 แห่ง ได้แก่
1) ด่านศุลกากรจันทบุรี
2)ด่านศุลกากรหนองคาย
3) ด่านศุลกากรแม่สอด

 

ปาล์ม

นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันเรื่องการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าตามด่านสินค้าชายแดน มีหน่วยงานหลัก อาทิ กรมการค้าภายใน กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประสานการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสกัดกั้นมิให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าและผลิตผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะผ่านทางด่านหรือช่องทางตามธรรมชาติ

อนึ่ง ในระยะยาว รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลผลิตโดยไม่ขยายพื้นที่ปลูก การเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันให้ไม่ต่ำกว่า 18% การเพิ่มนวัตกรรมในการผลิตและแปรรูปปาล์มน้ำมัน โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมโอลิโอเคมิคอล ซึ่งเน้นการใช้ปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การผลิตเครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์ กลีเซอรีน สบู่ น้ำยาซักล้าง

“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลมีมาตรการดูแลเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั้งระยะสั้นและระยะยาวครบทั้งระบบ เพียงแต่ในหลายเรื่องต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ตามที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนการดูแลเรื่องผลกระทบจากการผันผวนของราคาปาล์ม รัฐบาลได้ต่ออายุโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน จากสิ้นสุด ก.ย. เป็นสิ้นสุด ธ.ค. ซึ่งโครงการฯในรอบปี 62/63 ได้อนุมัติกรอบวงเงินไว้ 13,000 ล้านบาท แต่จ่ายชดเชยส่วนต่างราคาตลาดกับราคาประกันเพียง ประมาณ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาปาล์มอยู่ในเกณฑ์ดี และเมื่อสิ้นสุดเดือนธ.ค. รัฐบาลจะมีการพิจารณาเรื่องโครงการการประกันรายได้ต่อไป”

เฮ ราคาปาล์มดีขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลเผยพร้อมพัฒนาระยะยาว

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิง : สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์

 

Next Post

สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 12 ตุลาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)

Mon Oct 12 , 2020
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 12 ตุลาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) วันที่ 12  ตุลาคม 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย มีดังนี้ เป็นคนไทย ทั้ง 5 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก ฮ่องกง 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย […]
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 12 ตุลาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)