ศบค.คลายล็อก 1 ก.ย. 64 เปิดห้างได้ถึง 2 ทุ่ม ร้านอาหารติดแอร์ นั่งทานได้ 50%
วันที่ 29 ส.ค. 2564 ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เห็นชอบผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีความจำเป็นโดยมาตรการผ่อนคลายต่างๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป
1. การยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับเปิดกิจการ จัดกิจกรรมให้ปลอดภัย และยั่งยืนด้วยหลักการ COVID-Free Setting และ Universal Prevention
สำหรับสถานที่เสี่ยง และกลุ่มเสี่ยง
2. การเปิดกิจการ/กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ภายใต้มาตรการที่กำหนด ได้แก่
2.1 การเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้ ขอความร่วมมือหลีกเสี่ยงการเดินทาง หรือเดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือผู้ติดเชื้อให้เดินทางตามโครงการรับคนกลับบ้าน/รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างและหลังการเดินทาง

- ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 75 % สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร
- มาตรการสำหรับรถโดยสาร หรือรถตู้ ระยะทางไกลควรแวะพักทุก 2- 3 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศ
- การเดินทางไปทำงานของแรงงาน ให้ใช้ระบu seal route ตามมาตรการ Bubble and Seal
- การกำกับติดตามมาตรการโดย ผู้ประกอบการ กระทรวงคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือน
2.2 การเปิดบริการของร้านอาหาร
- ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โล่ง อากาศถ่ายเทดี ให้นั่งรับประทานได้ 75%
- ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 %
- ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดการกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้ประกอบการ สมาคมภัตตาคารไทย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
2.3 การปรับมาตรการสำหรับกิจการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ตอมมูนิตี้มอลส์
กลุ่มที่ 1 กิจการ/กิจกรรมที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไข ได้แก่
– ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
– ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า
– คลินิกเสริมตวามงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (อาจมีการนัดหมายส่วงหน้า เมื่อมีความพร้อม)
-ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศ
-ผู้ประกอบการต้องตำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
-การกำกับติดตามมาตรการ โดยสภาหอการค้าไทย และ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
-เปิดถึง เวลา 20.00 น.

กลุ่มที่ 2 กิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่ สถาบันกวดวิชา – โรงภาพยนตร์ – สปา – สวนสนุก สวนน้ำ – ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลี้ยง
2.4 การเปิดกิจการ/กิจกรรมบางประเภท ได้แก่ ร้านเสริมสวย ร้านนวด เฉพาะนวดเท้า
- ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
- การกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้ประกอบการ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
2.5 การใช้อาคารของสถานศึกษา สามารถใช้อาคารของสถานศึกษาได้ โดยผ่านความเห็นชอบของผู้แหนกระทรวงศึกษาธิการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในพื้นที่ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด /กรุงเทพมหานคร และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

2.6 การเปิดใช้สนามกีฬา เปิดถึง เวลา 20.00 น.
- สามารถเปิดใช้สนามกีฬา และสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ สามารถใช้ในการเล่น ซ้อม หรือแข่งขันกีฬาได้แบบไม่มีผู้ชม ทั้งนี้ให้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กรุงเทพมหานคร
- สามารถปิดใช้สนามกีฬาทุกประเภทสำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย แบบไม่มีผู้ชมโดยแจ้งให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/ กรุงเทพมหานคร ทราบล่วงหน้าก่อนการเริ่มใช้
- ผู้จัดการแข่งขัน ต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
- หารกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้จัดการแข่งขัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ศบค. ยังคงเวลาเคอร์ฟิว 21.00-04.00 น. ต่ออีกอย่างน้อย 14 วัน โดยมาตการผ่านคลายทั้งหมดจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป
อ้างอิง : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19