กรมควบคุมโรค คาดการณ์ไข้เลือดออกจะกลับมาระบาดอีกครั้ง มีแนวโน้มพบผู้ป่วยในกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
วันที่ 22 ส.ค. 65 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 สิงหาคม 2565 พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 16,276 ราย เสียชีวิต 14 ราย กลุ่มอายุที่เสียชีวิตคือ อายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 2.2 เท่า โดยช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบจังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุบลราชธานี ตาก และศรีสะเกษคาดการณ์ว่าปีนี้สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออก จะมีการระบาดมากขึ้นตามวงรอบของปีที่จะระบาด
โดยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยในกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น สำหรับลักษณะอาการของโรคไข้เลือดออกคือ มีไข้สูงเฉียบพลัน สูงลอยประมาณ 2-7 วัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร ส่วนใหญ่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ต่อมาไข้จะลดลงระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ ขอให้ประชาชนสังเกตอาการป่วยของคนในครอบครัว หากมีไข้สูงลอยเกิน 2 วัน และเช็ดตัวหรือกินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ขอให้คิดว่าอาจป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพรินและไอบูโพรเฟนมารับประทานเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย ประเมินอาการ และดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ชุดตรวจโรคไข้เลือดออกชนิดรวดเร็ว ทำให้สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้เร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ช่วงฝนตกแนะประชาชนยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้านให้สะอาด ไม่มีมุมอับทึบ เก็บขยะรอบบ้านไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด เปลี่ยนน้ำในแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันยุงลายมาวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรคคือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกาและโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
อ้างอิง : กรมควบคุมโรค