รมต.สาธารณสุขเยือนสงขลา รับทราบสถานการณ์โควิด-19

สืบเนื่องจากวันที่ 30 เมษายน 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้บริหารฝ่ายปกครอง ตรวจเยี่ยมการทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ในแง่ของกลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา นายอนุทินได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมมอบหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งเยี่ยมชมระบบการดูแลรักษาแรงงานข้ามชาติติดเชื้อ 42 ราย ที่โรงพยาบาลสนามภายในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา

นายอนุทินกล่าวว่า การตรวจพบแรงงานต่างชาติติดเชื้อทั้ง 42 คนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ เป็นการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง และได้เปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลรักษาโดยเฉพาะ โดยทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และโรงพยาบาลสะเดา เพื่อไม่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ อำนวยความสะดวกต่อการบริหารจัดการ เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมเบื้องต้น เมื่อพบผู้ป่วยก็ต้องรักษา ขอย้ำว่า การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้จะไม่กระทบกับคนไทยแน่นอน เป็นการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง แพทย์ พยาบาล จะได้รับการดูแลเช่นกัน มีการตรวจหาเชื้ออยู่เรื่อยๆ เพราะมีความเสี่ยง หากมีอาการจะได้รับการรักษาทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

ทั้งนายอนุทิน ยังได้กล่าวชื่นชม เรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเททำงาน เมื่อมีผู้ป่วยน้อยลงย่อมเป็นเรื่องดี แต่เราจะไม่ประมาท ได้เตรียมความพร้อมรับมือ หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็ตาม

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก: สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์

กยศ. ยืนยันว่าในปีการศึกษา 2563 มีวงเงินให้กู้ยืมเพียงพอแก่นักเรียน

Fri May 1 , 2020

กยศ. ยืนยันว่าในปีการศึกษา 2563 มีวงเงินให้กู้ยืมเพียงพอแก่นักเรียน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของประชาชนจำนวนมาก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขอยืนยันว่าผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะไม่มีเงินส่งให้ลูกหลานได้เรียน เนื่องจากกองทุนมีเงินเพียงพอให้ทุกคนได้กู้ยืมเรียนอย่างแน่นอน โดยในปีการศึกษา 2563 กองทุนได้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติเฉพาะเกี่ยวกับรายได้ครอบครัวของผู้กู้ยืมที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จากเดิมรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท/ปี เป็นไม่เกิน 360,000 บาท/ปี อีกทั้ง กองทุนได้มีการปรับเพิ่มค่าครองชีพรายเดือนให้ผู้กู้ยืมทุกระดับการศึกษาอีกรายละ 600 บาท/เดือน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากเดิม 1,200 บาท เป็น 1,800 บาท/เดือน ส่วนระดับ ปวช./ปวส./ปริญญาตรี จากเดิม 2,400 บาท เป็น 3,000 บาท/เดือน สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่กำลังมองหาโอกาสทางการศึกษาเพื่อต่อยอดสู่สาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก โดยเฉพาะสาขาวิชาที่อยู่ในโครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและ 3 โครงสร้างพื้นฐาน […]

Next Post

กยศ. ยืนยันว่าในปีการศึกษา 2563 มีวงเงินให้กู้ยืมเพียงพอแก่นักเรียน