จ.นราธิวาส นำรถคนไทยจากประเทศมาเลเซีย กลับเข้าไทย พบรถ 3 คัน ถูกโจรกรรม
เป็นวันที่ 2 ของการนำรถคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย กลับเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นไปอย่างราบรื่น โดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีกลุ่มคนไทยที่ลงทะเบียนและนัดหมายกับนายกิริยา อาแซ เจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ให้ปฏิบัติหน้าที่ในการประสานงานและอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ได้นำเอกสารประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่ สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถมายื่นให้เจ้าหน้าที่นำไปแสดงการครอบครองรถต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ขนส่งประจำด่านพรมแดนรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย สำหรับวันนี้มีผู้ลงทะเบียนไว้ จำนวน 15 คน แต่เดินทางมายื่นเอกสาร จำนวน 14 คน อย่างไรก็ตามในครั้งนี้พบว่ามีรถยนต์ จำนวน 3 คัน ที่ได้รับความเสียหายจากการจอดรถไว้ภายในเต็นท์ที่เปิดให้บริการเช่าพื้นที่จอดรถ ที่รันเตาปันยัง รัฐกลันตัน
นางไอยะห์ อาเซ็ง ชาวบ้านจากตำบลตันหยงมัส จังหวัดนราธิวาส ระบุว่า รถกระบะของตนได้จอดไว้ที่เต็นท์รถที่รันเตาปันยังเป็นระยะเวลา 4 เดือน 18 วัน จ่ายค่าเช่าที่จอด วันละ 70 บาท ซึ่งในวันนี้ได้ชำระทั้งหมดเป็นเงิน 9,660 บาท แต่ได้ทราบภายหลังว่ารถถูกงัดประตูรถ โดยคนร้ายขโมยกล้องติดหน้ารถ และถอดวิทยุติดรถยนต์ไป แต่ได้รับการยืนยันจากทางผู้ประกอบการเต็นท์รถที่รันเตาปันยัง ว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้าน นายอาหมัด บินตะหลี ชาวบ้านจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า รถของตนก็มีร่องรอยถูกงัด แต่สัญญาณกันขโมยดังขึ้นก่อน เมื่อเจ้าของเต็นท์ออกมาดู คนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไปขณะที่ นายสะมะแอ หะมะ ชาวบ้านอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา รถได้รับความเสียหายกระจกหลังแตก แต่ภายในมีเพียงเสื้อผ้าจึงไม่มีอะไรสูญหายไป
โดยผู้เสียหายทั้ง 3 ราย กล่าวว่า อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายที่ช่วยให้พวกตนได้รถกลับคืนมาได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือ ประสานงาน และแก้ปัญหาทุกด้านให้ รู้สึกประทับใจมาก ที่ผ่านมาการประกอบอาชีพประสบความยากลำบากเพราะไม่มีรถสำหรับใช้งาน ได้เห็นรถกลับมาฝั่งไทยถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายไปบ้างแต่โชคดีที่เจ้าของเต็นท์รถรับผิดชอบ
ทั้งนี้นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ได้ร่วมแสดงความยินดี และมอบกุญแจคืนให้กับเจ้าของรถ ภายหลังจากนำรถยนต์ จำนวน 14 คัน ไปจอดในบริเวณหน้าด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อใช้ความร้อนจากแสงแดดในการฆ่าเชื้อ ทั้งภายในและภายนอกตัวรถเป็นเวลา 3 วัน
อ้างอิง : สวท.สุไหงโกลก