พบซากโลมาอิรวดีตาย ที่อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา
เมื่อวันที่ 23/6/63 ร้อยตำรวจโทสิทธิศักดิ์ นักการรอง ร้อยเวรป้องกันปราบปราม พร้อมกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติและเหตุห้ามล่าสัตว์ป่าฯ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากโลมาสภาพเริ่มเน่าเปื่อย บริเวณคลองส่งน้ำกาหรำ ตำบลโรง อำเภอกระแสสินธุ์ ฯ เจ้าหน้าที่นำซากศพโลมา เพื่อสอบสวนการตายของปลาโลมาอิรวดีหาสาเหตุการตายต่อไป
โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา ตอนนี้กำลังเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์อย่างยิ่ง โลมาอิรวดีมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น “โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง”, “โลมาน้ำจืด”, “โลมาหัวหมอน” ในภาษาใต้ และ “ปลาข่า” ในภาษาลาว เป็นต้น สำหรับโลมาอิรวดี เป็นสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ถูกจัดให้อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และในที่ประชุม CITES ปี 2546 ไทยได้เสนอให้โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองบัญชีที่ 1 อันมีผลทำให้โลมาอิรวดีได้รับการคุ้มครองในระดับนานาชาติ จัดเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่ควรอนุรักษ์ 1 ใน 20 ของปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือชาวประมงในทะเลสาบสงขลาช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดี แม้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ทำการวางทุ่นในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาตอนบนเนื้อที่ 100 ตารางกิโลเมตร เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงเขตที่อยู่ของโลมาอิรวดี ซึ่งจะทำให้โลมาอิรวดีปลอดภัยมากขึ้นแล้ว แต่อาจจะมีโลมาว่ายน้ำออกไปหากินนอกเขตอนุรักษ์ และมีความเสี่ยงที่จะไปติดเครื่องมือทำการประมงสูง
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตายอย่างต่อเนื่องและ อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก่อนที่พวกมันจะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าให้เราฟังเท่านั้น ไม่ทิ้งขยะ หยุดปล่อยสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำ จงภูมิใจที่ทะเลบ้านเรามีพวกเขามาอยู่อาศัย
อ้างอิงข้อมูลจาก : ตำรวจภูธรกระแสสินธุ์