ผู้ว่าฯ สงขลา ลงพื้นที่ตรวจจุดตรวจรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำชับตรวจเข้ม เอกสารหลักฐาน 3 อย่างต้องพร้อม

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงพื้นที่ตรวจจุดตรวจรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำชับตรวจเข้ม เอกสารหลักฐาน 3 อย่างต้องพร้อม

 วันที่ 22 ก.ค. 64  ความคืบหน้าสถานการณ์โควิด 19 ที่ จ.สงขลา ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 175 คน ยอดสะสมผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 8,525 คน ส่วนยอดสะสมคลัสเตอร์เรือนจำ 1,101 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 คน รวมเสียชีวิตสะสม 51 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ขณะที่ผู้ติดเชื้อที่พบส่วนใหญ่ยังคงกระจายตัวทั้งในกลุ่มของโรงงานต่างๆหลาย รวมทั้งกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากโรงเรียนสอนศาสนาใน จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ส่วนที่เหลือเป็นการคัดกรองเชิงรุกทั้งในโรงงาน และตามชุมชนต่างๆหลายแห่ง โดยทั้งหมดได้มีการส่งเข้ารักษาตัวแล้ว และภาพรวมโรงพยาบาลหลักของรัฐ และโรงพยาบาลสนาม ยังคงเพียงพอที่จะให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด

7db7838e499b5400b8c6b8c98809eaad Small

ขณะที่ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา ได้เผยแพร่ข้อมูลสถิติการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ของ จ.สงขลา ในระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนถึงปัจจุบัน โดยทำการตรวจในคน 5 กลุ่ม ทั้ง ผู้เข้าเกณฑ์ คนไทยกลับจากมาเลเซีย แรงงานต่างด้าว กลับจากพื้นที่เสี่ยง และ เรือนจำ รวม 76,878 ครั้ง ไม่พบเชื้อ 66,106 ราย และมีผู้ป่วยยืนยัน 9,451 ราย คิดเป็นอัตราติดเชื้อประมาณร้อยละ 12

Da792ed08c78e71db1e8046815b1efbe Small

 ด้านนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่จุดตรวจคัดกรองบ้านควนติหมุน ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.เทพา จ.สงขลา กับ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดตรวจหลักของจังหวัดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มจังหวัดควบคุมสูงสุด สีแดงเข้ม เช่นเดียวกัน

9ad20247c8637475efab48e497d08b7a Small

โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจมีความเข้มงวดในการตรวจสอบ และคัดกรองบุคลที่เดินทางผ่านเข้าออกระหว่างจังหวัด โดยเฉพาะในส่วนของ จ.สงขลา ได้มีการหารือ และกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น โดยให้ผู้ที่จะเดินทางออกนอกเขตจังหวัดต้องทำ 3 ขั้นตอน คือการขอเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทางจากที่ว่าการอำเภอ หรือ สถานีตำรวจ

D82d0f107a7a3552c1ca6b609a596c8e Small

จากนั้นให้ทำการลงทะเบียนในเว็บไซต์หยุดเชื้อเพื่อชาติ เพื่อกรอกข้อมูลบันทึกการเดินทาง และรับคิวอาร์โค๊ด โดยเมื่อจะผ่านด่านตรวจออกนอกเขตจังหวัดจะต้องแสดงหลักฐานทั้ง 3 อย่าง แก่เจ้าหน้าที่ หากไม่มี หรือมีไม่ครบ ก็จะไม่อนุญาตให้ผ่าน และต้องไปทำการขอเอกสารหลักฐานมาให้เรียบร้อย เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายของบุคคลและยานพาหนะในการเดินทางเข้าออก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงด้วยกัน 

อ้างอิง :  สวท.สงขลา

Next Post

อบจ.สงขลา ส่งมอบถุงยังชีพให้ประชาชนพื้นที่อ.สทิงพระ และ อ.กระแสสินธุ์

Thu Jul 22 , 2021
อบจ.สงขลา ส่งมอบถุงยังชีพให้ประชาชนพื้นที่อ.สทิงพระ และ อ.กระแสสินธุ์ วันนี้ 22 ก.ค. 64 นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา นายประพันธ์ ศรีสุวรรณ ปลัด อบจ.สงขลา ประธานสภา อบจ.สงขลา รองประธานฯ สจ. อบจ. และเจ้าหน้าที่ อบจ.สงขลา เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และโดนกักตัวอยู่บ้านในพื้นที่อำเภอสทิงพระ และอำเภอกระแสสินธ์ โดยจุดแรกได้นำไปมอบให้ที่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสทิงพระ โดยมี นายอำเภอ เป็นตัวแทนรับมอบถุงยังชีพ เพื่อนำไปส่งต่อให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด และโดนกักตัวที่บ้าน ต่อไป ส่วนจุดที่สอง ที่ศาลาประชาคมอำเภอกระแสสินธุ์ โดยมีนายอำเภอกระแสสินธุ์ เป็นตัวแทนรับมอบ              นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่อำเภอสทิงพระ และอำเภอกระแสสินธุ์ เพื่อนำถุงยังชีพมามอบให้กับพี่น้องประชาชน ที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของ covid- 19 และถูกกักตัวที่บ้าน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้รับมอบมาจากพี่น้องประชาชน ที่มีจิตศรัทธานำมามอบให้กับทาง อบจ.สงขลา เพื่อนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนในทุกอำเภอ ทุกพื้นที่ และก็ยังมีอีกหลายครัวเรือนที่ยังคงมีความต้องการถุงยังชีพ โดยทาง อบจ.สงขลา ยังคงเปิดรับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ผู้ใจบุญทุกท่าน ในการนำข้าวสาร อาหารแห้ง มามอบให้กับทาง อบจ.สงขลา เพื่อทาง อบจ.สงขลา จะได้ทำการคัดแยก และนำมามอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อไป             ปัจจุบันจังหวัดสงขลาก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีผู้ติดเชื้อเยอะมาก จนเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จึงอยากให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลา ช่วยกันดูแลคนรอบข้าง และคนในครอบครัวอย่างเข้มงวด ตามมาตรการของสาธารณสุขจังหวัด หรือของอำเภอที่ให้คำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อจากคนอื่น และคนรอบข้างเราก็จะได้ไม่ต้องติดเชื้อ เพื่อเราทุกคนจะได้กลับมาสู่ภาวะปกติ และหันมาประกอบอาชีพได้ปรกติเช่นเดิม อ้างอิง : สวท.สงขลา Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ปกข่าว 01