จังหวัดสงขลา บุกจับกุมเรือประมงเวียดนามเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย 2 ลำ ลูกเรือกว่า 24 คน

วันนี้ (7 ม.ค.64) เวลา 08.30 น. ที่บริเวณท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลาพลตรี พิจิตต ศรีรุ่งเรือง เสธ.ทรภ.2 พร้อมด้วยนายวรณัฎฐ์ หนูรอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผบ.เรือหลวงล่องลม กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ประมงจังหวัดสงขลา สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 และด่านศุลกากรสงขลา ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม ที่เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 075 ระยะ 143 ไมล์ จากปากร่องน้ำสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ในน่านน้ำภายใน

โดยทางศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางเรือ ภาคที่ 2 โดยทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ในวันที่ 6 มกราคม 2564 ซึ่งพลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงล่องลม ออกเรือลาดตระเวน

พบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 2 ลำ มีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือรวม จำนวน 12 คน โดยเรือได้ออกมาจากเมืองกาเมา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2564 ซึ่งได้ทำการประมงมาแล้ว 3 วัน จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือดังกล่าว มาทำการสอบสวน ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 และได้ให้สาธารณสุขจังหวัดสงขลาส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ มาตรวจวัด และซักถามอาการเบื้องต้น เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 และสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่ถูกจับกุม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 4 ข้อหา คือ 1) ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย 2) ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบอนุญาตทำการประมง 3) ร่วมกันทำประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต 4) เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ทางศรชล.ภาค 2 ย้ำให้ประชาชนและชาวประมงไทย มั่นใจ จะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับคนไทยต่อไป