หาดใหญ่เตรียมพร้อม เปิดศูนย์รับมือภัยแล้งและไฟป่า
จากการประชุมของกรมส่งเสริมการเกษตร เห็นสมควรว่า จัดตั้งศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตร ปี 2563 (วอร์รูม)ช่วงมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2563 กรมส่งเสริมการเกษตรขึ้น ทั้งระดับกรม เขต จังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง การสร้างการรับรู้ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ รวมทั้งการปฏิบัติดูแลรักษาพืชอย่างถูกวิธี การเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและสรุปผลการรายงาน เพื่อแก้ไขปัญหาและเตรียมความพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าซึ่งการคาดการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมาฝนตกน้อยทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้อย บวกกับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มี.ค.63) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำใช้การได้เพียงร้อยละ 22 ทำให้พื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ปลูกไม้ผลนอกเขตชลประทานมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำใน 30 จังหวัด พื้นที่ประมาณ 3.7 แสนไร่ รวมถึงพื้นที่การเกษตรอื่นๆ อาจได้รับผลกระทบเสียหายเช่นกัน นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าอาจจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2563 จึงต้องติดตามเฝ้าระวังในการใช้น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งป้องกันแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
จึงออกมาตรการรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง 8 มาตรการ ได้แก่ เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกพื้นที่สวน, รณรงค์ประชาสัมพันธ์ “เกษตรร่วมใจรับมือภัยแล้ง ปี 2563”, ส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อย, ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา, ส่งเสริมปลูกพืชหลากหลายฤดูนาปรัง, บูรณาการความร่วมมือในพื้นที่เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้แก่เกษตรกร, จัดกิจกรรมงานวันสาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้โดยให้ข้อมูล/ความรู้/ข้อปฏิบัติ/คำแนะนำในการดูแลรักษาผลผลิตชนิดพืชที่เกษตรกรเพาะปลูกตลอดช่วงฤดูแล้ง การให้น้ำพืชที่เหมาะสม ทั้งขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าผ่านสื่อ/ช่องทางต่าง ๆ เป็นต้น
ทาง อ.หาดใหญ่ ไม่นิ่งนอนใจจึงรีบประชุมและมีประกาศเทศบาลเมืองคอหงส์เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินช่วยเหลือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน ที่อาจจะเกิดเนื่องจากปัญหาอุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วงระยะเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤาภาคม(ช่วงฤดูร้อน)และมีลมกระโชกแรงเอื้อต่อการเกิดไฟป่าได้ง่ายเป็นอันตรายที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ทันที ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการช่วยเหลือประชาชนและลดการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน
รูปภาพ / อ้างอิงข้อมูลจาก : เทศบาลนครคอหงส์