แนวทางปฏิบัติชาวประมง ในช่วง COVID-19

แนวทางปฏิบัติชาวประมง ในช่วง COVID-19
แนวทางปฏิบัติชาวประมง ในช่วง COVID-19

แนวทางปฏิบัติชาวประมง ในช่วง COVID-19

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรและได้ออกข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

“ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. – 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทาง หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

ในการนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพด้านการประมงตลอดภาคการผลิต อาทิ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการ ชาวประมง ฯลฯ เข้าใจและมีแนวทางในการประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องตามเจตนารมย์ของรัฐบาล ที่ต้องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภายในประเทศ โดยในส่วนของผู้ประกอบอาชีพทางการประมงที่จะได้รับการยกเว้นให้ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว มีแนววิธีปฏิบัติที่เป็นไปตามข้อกำหนด พรก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) ข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย และข้อสั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้

1. การประกอบอาชีพทางการประมงตลอดสายการผลิตที่จำเป็นจะต้องออกนอกเคหสถานไปประกอบอาชีพทางการประมงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาเคอร์ฟิว (เวลาที่ห้าม 22.00 – 04.00 น.) โดยไม่สามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลาได้ ให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการ ชาวประมง ฯลฯ ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือ ตำรวจประจำท้องที่)

2. การขนส่งผลผลิตทางการประมง สินค้าประมง เพื่อนำเข้าหรือส่งออก หรือส่งข้ามเขตพื้นที่หรือข้ามจังหวัด แบ่งได้ 3 กรณี คือ

2.1 กรณีการขนส่งของภาคเอกชน : จะต้องมีหนังสือรับรองบุคคล โดยให้ผู้ประกอบการ/นายจ้าง ของผู้เดินทางไปกับพาหนะในการขนส่งเป็นผู้ออกหนังสือรับรองให้กับผู้เดินทาง ซึ่งหนังสือดังกล่าวจะต้องระบุ ชื่อ – สกุล / เลขบัตรประจำตัวประชาชน / อาชีพ / ตำแหน่ง และระบุภารกิจ / เวลาในการเข้า – ออก และระบุต้นทาง ปลายทาง และประเภทของสินค้าให้ชัดเจน นอกจากนี้ กรณีมีเอกสารเกี่ยวกับตัวสินค้า เช่น MD , FMD , MCPD ให้นำแนบไปด้วย

2.2 กรณีการขนส่งของผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่ขนส่งผลผลิตด้วยตนเอง หรือ กรณีจำเป็นต้องให้ทางราชการออกหนังสือรับรอง ให้เจ้าหน้าที่กรมประมงออกหนังสือรับรองให้ โดยให้เร่งรัดบริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างให้ได้รับผลกระทบ โดยให้ประมงจังหวัด ประมงอำเภอ และหน่วยงานของกรมประมงทุกแห่งประสานกับจังหวัด อำเภอ เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปในแนวทางและมีความสอดคล้องกัน

2.3 กรณีการขนส่งสัตว์น้ำของหน่วยงานกรมประมง ให้ปฏิบัติตามแนวทางของภาคเอกชน คือ ต้องมีหนังสือรับรอง ซึ่งออกโดยหัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด

อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติดังกล่าวนี้ เป็นเพียงแนวปฏิบัติโดยภาพรวมที่แจ้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนสำหรับผู้ประกอบอาชีพทางการประมงตลอดสายการผลิตที่มีความจำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ หากจังหวัดใดมีมาตรการใดที่เข้มงวดหรือหลักปฎิบัติที่เป็นข้อปฏิบัติต้องยึดปฏิบัติตามข้อสั่งการของพื้นที่เป็นหลักเพื่อความเหมาะสมของการบริหารจัดการในแต่พื้นที่ด้วย

 

แนวทางปฏิบัติด้านประมง ช่วงเคอร์ฟิว COVID-19
แนวทางปฏิบัติด้านประมง ช่วงเคอร์ฟิว COVID-19

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมประมง กระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์

ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์

Next Post

กัมพูชาเตรียมล็อกดาวน์ หวั่นพิษโควิด-19

Fri Apr 10 , 2020
กัมพูชาเตรียมล็อกดาว์น หวั่นพิษโควิด-19 รัฐบาลกัมพูชาได้ออกคำสั่งงดการเดินทางเข้าออกจากระหว่างจังหวัดและระหว่างเขตทั่วประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 24.00 น. ถึงวันที่ 16 เมษายน 2563 เวลา 24.00 น. คนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยภายหลังการยุติการชะลอการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งในชั้นนี้คือวันที่ 16 เมษายน 2563 และไม่ได้ได้อยู่ในจังหวัดชายแดนกัมพูชา-ไทย ควรวางแผนเดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2563 เป็นต้นไป คำสั่งงดการเดินทางเข้าออกระหว่างจังหวัดทั่วประเทศกัมพูชาสรุปได้ดังนี้ 1.ห้ามเดินทางภายในประเทศ ทั้งการผ่านเข้า-ออกพนมเปญ (ไม่รวมถึงการเดินทางภายในพนมเปญเอง) การเดินทางจากเขตหนึ่งไปอีกเขตหนึ่ง และจากจังหวัดหนึ่งไปจังหวัดหนึ่ง 2.ห้ามการเดินทาง ยกเว้นรถขนส่งสินค้าทุกชนิด, รถยนต์ของข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงานนอกพื้นที่, รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ประดับอาวุธ ที่ต้องปฏิบัติงานนอกพื้นที่ รถโรงพยาบาล รถดับเพลิง รถเก็บขยะ รถขนกรรมกร ที่ได้รับอนุญาตโดยกรมแรงงานและการเดินทางของชาวบ้านไปหาหมอที่ใกล้บ้านที่สุดไม่เกิน 4 คนต่อหนึ่งกรณี รายละเอียดเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากวันที่ 16 เมษายน 2563 เป็นต้นไป สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งทาง […]
ปกข่าวสำหรับเว็บ ต้นฉบับ 01