สงขลา กรมประมงประกาศขอความร่วมมืองดจับสัตว์น้ำในฤดูปลาน้ำจืดวางไข่
ฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท
วันที่ 6 ต.ค. 64 นางณัฐฐาพร ไชยโยธา ปลัดอำเภอประจำตำบลบ้านขาว ร่วมกับ ประมงอำเภอระโนด เจ้าหน้าที่ปราบปรามฯ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ออกรื้อเครื่องมือทำประมงผิดกฎหมาย ที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้ปลาได้วางไข่ตามฤดูกาล ยังคงใช้มาตรการคุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ในทุกจังหวัด ให้เหมาะสมตามข้อมูลทางวิชาการและการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งคาดว่า ในปี 2564 ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญและลานีญา ทำให้ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่อง โดยคาดว่าฤดูฝนปีนี้จะเริ่มต้นประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเร็วกว่าปกติ และไปสิ้นสุดลงประมาณกลางเดือนตุลาคม และปริมาณน้ำฝนรวมของทั้งประเทศจะมีปริมาณมากกว่าค่าปกติและมากกว่าปีที่แล้ว นั่นหมายความว่า ช่วงดังกล่าวนี้จะเข้าสู่ช่วงฤดูน้ำแดง
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การรักษาพันธุ์สัตว์น้ำและระบบนิเวศเกิดความยั่งยืน ในมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ (ฤดูน้ำแดง) กรมประมงจึงออกประกาศใช้มาตรการสัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนฤดูน้ำแดง มีกำหนดใช้ 2 ปี (2564 – 2565)
และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และ วันที่ 1 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 : ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา โดยเครื่องมือ วิธีการทำการประมง ที่อนุญาตให้ประชาชนสามารถทำการประมงในฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ได้ มีดังนี้
1. เบ็ดทุกชนิด ยกเว้น เบ็ดราว เบ็ดพวง ที่ทำการประมงโดยวิธีการกระชาก หรือการใช้เครื่องมืออื่นใด
ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
2. ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ หรือชนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร และไม่ทำการประมง
ด้วยวิธีประดาตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป
3. สุ่ม ฉมวก และส้อม
4. ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน
5. แหที่มีความลึกไม่เกิน 6 ศอก (3 เมตร)
6. การทำการประมงเพื่อการศึกษา วิจัย ทดลองทางวิชาการ หรือในพื้นที่โครงการที่ดำเนินการของทางราชการ และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมประมง
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนตามประกาศฯ มาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษปรับตั้งแต่ห้าพันถึงห้าหมื่นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
และในปีนี้ กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมงและประชาชนทั่วไป ในการปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ ร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการทำประมงอย่างถูกวิธี ไม่ทำลายสัตว์น้ำด้วยการใช้เครื่องมือที่ห้ามใช้จับปลาในฤดูมีไข่ และช่วยกันสอดส่องดูแลและแจ้งเบาะแสการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำจืดของไทยให้สามารถแพร่ขยายพันธุ์คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อให้สัตว์น้ำจืดมีใช้อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมประมง กล่าว
อ้างอิง : กรมประมง