ศบค. มีมติประกาศขยายเวลาการสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ อีก 1 เดือน
ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรน่ายังคงมีการระบาดที่รุนแรง อีกทั้ง มีคนไทยจากต่างประเทศและชาวต่างชาติที่ได้รับการผ่อนผันเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีการอนุญาตชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม
นอกจากนี้ มาตรการผ่อนคลายภายในประเทศที่ดำเนินการอยู่เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค จึงมีความจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเข้มงวดและ ต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดของโรคภายในประเทศ
ความจำเป็นที่ในการขยายพรก.ฉุกเฉิน มีรายละเอียดดังนี้
- จำเป็นต้องมีอำนาจตามกฎหมายเชิงป้องกันในการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ อาทิ 1.การควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรในทุกช่องทาง 2.การจัดทำระบบติดตามตัวการกักตัว และการเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย และ 3.มาตรการการควบคุมโรคที่สามารถบังคับใช้ได้อย่างครอบคลุมในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
- จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการวิกฤติการณ์ในลักษณะการรวมศูนย์ที่ปฎิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการบูรณาการกำลังพลเรือน ตำรวจและทหารเข้าร่วมปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อำนาจตาม พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) จนกว่าจะมีกฎหมายฉบับอื่นมารองรับในอนาคต
นอกจากนี้ ทางโฆษก ศบค. มีมติ ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ ออกไปอีก 1 เดือน (จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563) โดยจะเป็นกฎหมายเชิงป้องกัน เพื่อการแก้ไขปัญหา เน้นการดูแลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ขณะที่ประชาชนในประเทศสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากนี้จะนำมติดังกล่าวเข้า ครม. เพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์โควิด-19
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์