จ.สงขลา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 286 ราย ย้ำปชช.หากไข้สูงเกิน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์
วันที่ 13 ก.พ. 66 นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกจังหวัดสงขลา ขณะนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งในปีนี้ครบวงรอบการระบาด ปกติจะระบาดปีเว้นปีหรือสองปี ขอให้ประชาชนทุกครัวเรือน ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดยให้แต่ละบ้านสำรวจจุดเสี่ยงแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายที่พบบ่อย เช่น ภาชนะที่ถูกทิ้ง จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่า โอ่งใส่น้ำที่ไม่มีฝาปิด ภาชนะรองน้ำทิ้งหลังตู้เย็น ภาชนะรองขาตู้กับข้าว แจกันพลูด่าง แก้วน้ำหิ้งพระ พร้อมทั้งทำลายลูกน้ำยุงลาย ใส่ทรายทีมีฟอส รวมทั้งจัดเก็บภาชนะ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายวางไข่โดยทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์
สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2566 พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 286 ราย ยังไม่พบเสียชีวิต อำเภอที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ อำเภอสะเดา อำเภอจะนะ อำเภอสิงหนคร อำเภอคลองหอยโข่ง และอำเภอสทิงพระ
ทั้งนี้โรคไข้เลือดออก มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสงขลาขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน รวมทั้งจิตอาสา เพื่อรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ขณะนี้พบว่ามีหลายสถานที่ เช่น ชุมชน โรงเรียน วัด ยังมีค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้มีความเสี่ยงที่โรคไข้เลือดออกอาจจะแพร่กระจาย และขยายเป็นวงกว้าง ขอแนะนำประชาชนหากป่วยมีไข้สูง 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น อ่อนเพลีย ซึมลง ปัสสาวะสีเข้ม หรือไข้ลดแล้วแต่อาการแย่ลง ซึมกว่าเดิม เบื่ออาหาร ขอให้สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก และรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และห้ามซื้อยากินเอง ทั้งนี้ ผู้ป่วยไข้เลือดออกส่วนใหญ่จะมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น ปวดศีรษะ ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามตัว
อ้างอิง : สาธารณสุขจังหวัดสงขลา