ปรับเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ขยายมาตรการงดออกนอกเคหะสถานหลัง 21.00 – 04.00 น. เริ่ม 3 ส.ค. นี้

ปรับเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ขยายมาตรการงดออกนอกเคหะสถานหลัง 21.00 – 04.00 น. เริ่ม 3 ส.ค. นี้

วันที่ 2 ส.ค. 64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ครั้งที่ 11/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) เพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ขยายระยะเวลาการใช้มาตรการตามข้อกำหนดฉบับ 28 งดออกนอกเคหะสถานหลัง 21.00 น.- 04.00 น. เริ่ม 3 สิงหาคมนี้

5e9a7d050452d008f53595ed41d7a509 Small

นายกรัฐมนตรี แจ้งในที่ประชุมทราบว่า ระยะเวลา 1-2 เดือนข้างหน้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ  ซึ่งทั่วโลกมีทิศทางการแพร่ระบาดรุนแรงและเพิ่มมากขึ้น ศบค. จึงเร่งดำเนินการในขณะนี้ ทั้งการยกระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด – 19 การใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ให้กำหนดมาตรการกำกับดูแลอย่างรัดกุมและกำหนดแนวทางการในการบริหารจัดการตรวจ Antigen Test Kit รวมทั้งกำชับให้บริหารจัดการระบบการรักษาพยาบาลทุกระบบให้มีประสิทธิภาพและให้มีการประสานงานโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน จัดทำระบบ HI และ CI เพิ่มเติม ทั้งในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน การยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในสถานประกอบกิจการ ทั้งโรงงาน แคมป์แรงงาน บริษัท ในรูปแบบการป้องกันควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ หรือ Bubble and Seal โดยเฉพาะโรงงานใหญ่ๆ เพื่อชะลอกการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานให้มากที่สุด

229119218 377896647161999 8087903806348576559 N

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยอีกว่า วันพรุ่งนี้จะมีการรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่รัฐบาลต่างประเทศส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประกอบด้วย  รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มอบวัคซีนไฟเซอร์ ไบโอเอนเทค (Pfizer-BioNTech) จำนวน 1,503,450  โดส  ซึ่งมาถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร จำนวน 415,040 โดส รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสมอบอุปกรณ์ทางแพทย์  ได้แก่ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด – 19 แบบเร่งด่วน (Rapid Antigen Test) จำนวน 1,100,000 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง ซึ่งได้จัดส่งถึงไทยแล้ว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม  และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของรัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบจำนวน 1,053,090 โดส เมื่อวันที่ 12  กรกฎาคมที่ผ่านมา

230442256 377896610495336 4253162149800812553 N

สำหรับแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนนั้น นายกรัฐมนตรียังยืนยันการจัดหาโควิด-19 ในเดือนสิงหาคม จำนวน 10 ล้านโดส ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า กลุ่มโรงงานและกลุ่มประกันสังคมรวมทั้งคนต่างประเทศที่อยู่ประเทศไทย พร้อมทั้งได้เร่งให้มีการพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัคซีนสปุ๊กนิก ขณะเดียวกันก็สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศเร่งเจรจาจัดหาวัคซีน เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อป้องกันไวรัสที่กลายพันธ์ ขณะนี้ได้เร่งการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เชื่อว่าจะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุได้ครอบคลุมร้อยละ 50 ภายในเดือนสิงหาคมนี้ 

226054634 377896640495333 8196528816951790607 N
228829802 377896587162005 8612414479711978315 N

อ้างอิง : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

Next Post

อบจ.สงขลา ปล่อยขบวนคาราวานรถผลไม้ ส่งมอบให้กับรพ.สนาม และบุคลากรทางการแพทย์

Mon Aug 2 , 2021
อบจ.สงขลา ปล่อยขบวนคาราวานรถผลไม้ ส่งมอบให้กับรพ.สนาม และบุคลากรทางการแพทย์ วันที่ 2 ส.ค. 64 นายไพเจน มากสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และคณะ ร่วมปล่อยขบวนคาราวานรถผลไม้ จากหน้าอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อนำผลผลิตทางการเกษตร ที่ได้รับซื้อมาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้ โดยทาง อบจ.สงขลา เร่งช่วยเหลือชาวสวนมังคุด และสวนเงาะที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ทำการลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร เงาะ และมังคุด อย่างละ 1 ตัน ที่ได้คัดแยกและบรรจุใส่กล่อง และถุงพลาสติก นำลำเลียงขึ้นรถกระบะ จำนวน 5 คัน เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสงขลา  มอบให้กับโรงทานวัดไทรงาม บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลในอำเภอต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้   ด้านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมังคุด และชาวสวนเงาะ ที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทาง อบจ.สงขลา ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้เร่งทำการรับซื้อมังคุด และเงาะ อย่างละ 1 ตัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น และวันนี้ทาง อบจ.สงขลา ได้นำผลไม้จากเกษตรกรชาวสวน นำไปมอบให้กับศูนย์พักพิงให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม ที่ปัจจุบันเป็นที่พักของผู้ป่วยโควิด-19 และอีกหลายที่รวมทั้งนำไปมอบ ณ โรงทานวัดไทรงาม ซึ่งทางวัดไทรงามได้จัดตั้งครัวประกอบอาหารให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชน และมอบให้เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงยิมเซียมเนเซียม ที่ทำการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน บริเวณสนามติณสูลานนท์ นอกนั้นก็กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั้งอำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอระโนด อำเภอหาดใหญ่   จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ได้รับผลระทบในหลายๆด้าน การขนส่งหยุดชะงัก ผลผลิตทางการเกษตรที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นเงาะหรือมังคุด ในขณะนี้ราคาตกต่ำมาก ทาง อบจ.สงขลา จึงได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น เพื่อให้สามารถที่จะระบาย ผลผลิตออกไปได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนั้น นายไพเจน มากสุวรรณ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ปล่อยขบวนรถคาราวานผลไม้ที่บรรทุกผลไม้ทั้งมังคุด และเงาะ จำนวน 5 คัน เพื่อแยกย้ายนำผลไม้ไปแจกจ่ายตามจุดต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ อ้างอิง : สวท.สงขลา Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ปกข่าว 01