“เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

    เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.63  ชาวบ้านกลุ่มนี้บางส่วนได้ปักหลักประท้วงอยู่ที่ศาลกลางจังหวัดพัทลุง นายเดชา เหล็มหมาด ประธานกลุ่มรักษ์โตนสะตอ พร้อมด้วย นายสันติชัย ชายเกตุ เครือข่ายชมรมรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง ตัวแทนกลุ่มสภาองค์กรชุมชนระดับตำบล จ.พัทลุง และชาวบ้านหมู่ 1 ในพื้นที่ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง จำนวนประมาณ 100 คน ได้จัดกิจกรรมเดินชูป้าย พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด โดยยื่นต่อ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อขอให้ยกเลิกโครงการนี้ เพราะถือเป็นโครงการที่ไร้ประโยชน์พร้อมขีดเส้นตายภายในวันศุกร์ที่ 21 ส.ค. หากข้อเรียกร้องยังไม่บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ก็พร้อมขึ้นไปประท้วงต่อที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

ซึ่งเมื่อวันเสาร์ ที่ 22 ส.ค. 63 ทางกลุ่มชาวบ้านบางส่วนได้ร่วมกันเดินทางด้วยรถไฟไปปักหลัก ที่กรุงเทพฯ หน้ากระทรวงเกษตรฯ เรียกร้องให้ยกเลิกโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

  โดยโครงการสำหรับอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เป็นโครงการของกรมชลประทาน ตามแผนจะก่อสร้างในพื้นที่ต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด หมู่ 1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน ใช้งบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดิน แต่สิ่งที่ชาวบ้านกลุ่มนี้คาใจก็คือ โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วที่กรมชลประทานกำลังผลักดันให้ก่อสร้าง อยู่ห่างจากเขื่อนป่าบอนซึ่งกรมชลประทานสร้างเสร็จไปแล้วเพียงแค่ 3 กิโลเมตร

นายเดชา บอกว่า กรมชลประทานมีความพยายามแบบไร้เหตุผล ในการจะผลักดันให้มีการสร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนแห่งนี้มาเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว เมื่อถูกคัดค้านก็จะชะลอโครงการไว้ชั่วคราวทุกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาผลักดันต่อ ทำให้ชุมชนชาวเหมืองตะกั่วทนต่อพฤติกรรมของกรมชลประทานไม่ไหว เพราะเหมือนโดนหลอกมาตลอด ประการสำคัญคือการสร้างเขื่อนแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นกับพื้นที่ เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ กันมีเขื่อนถึง 2 แห่งอยู่แล้ว ทั้งยังมีความไม่ชอบมาพากล ไม่ผ่านการประชาพิจารณ์จากเวทีชาวบ้านอีกด้วย

เหตุผลในการคัดค้าน ซึ่งระบุอยู่ในหนังสือเรียกร้องให้ยุติการสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว มีทั้งหมด 5 ข้อ กล่าวคือ

1. ไม่มีความชัดเจนว่าโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ตามที่กรมชลประทานอ้างจริงหรือไม่

2. ในรัศมี 10 กิโลเมตรรายรอบโครงการ มีเขื่อนอยู่แล้ว 2 เขื่อนที่ได้สร้างหายนะต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนไม่ได้ใช้น้ำตามที่กรมชลประทานกล่าวอ้าง

3. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เคยไต่สวนความขัดแย้งเมื่อวันที่ 31 ส.ค.58 ระบุไว้ชัดว่า ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว

4. รายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คัดลอกข้อมูลจากรายงานโครงการอื่นใน จ.เพชรบูรณ์ เข้าข่ายการจัดทำรายงานปลอมหรือไม่

และ 5. พื้นที่สร้างเขื่อนอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ ซึ่งควรอนุรักษ์ไว้มากกว่าการสร้างเขื่อน

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

 

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

 

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

 

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

 “เขื่อนเหมืองตะกั่ว” ชาวบ้านจ.พัทลุงโวยของเดิมมีแล้ว 4 แห่ง ไม่จำเป็นต้องสร้าง

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิง : เดชา เหล็มหมาด

Next Post

ปิดตัวถาวรแล้ววันนี้ ห้างเซ็นทรัลหาดใหญ่ หลังเปิดมา 26 ปี และเป็นห้างสาขาแรกของเครือเซ็นทรัลในภาคใต้

Tue Aug 25 , 2020
ปิดตัวถาวรแล้ววันนี้ ห้างเซ็นทรัลหาดใหญ่ หลังเปิดมา 26 ปี และเป็นห้างสาขาแรกของเครือเซ็นทรัลในภาคใต้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ หรือเซ็นทรัล 1 ถนนเสน่หานุสรณ์ ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เปิดดำเนินการมา 26 ปีเต็มนับตั้งแต่ปี 2537-2563 ศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจกลางใจเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลาและเป็นห้างเซ็นทรัลสาขาแรกของภาคใต้ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเครือเซ็นทรัล เนื่องจากที่ผ่านมาชาวมาเลเซียที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็จะนิยมพักโรงแรมย่านดาวน์ทาวน์ กลางใจเมืองหาดใหญ่ ตั้งแต่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1, 2, และ 3 ถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนประชาธิปัตย์ ถนนธรรมนูญวิถี ถนนดวงจันทร์ ฯลฯ ชาวมาเลเซีย เมื่อลงจากที่พักโรงแรมย่านดาวน์ทาวน์ จะลงเดินแวะเที่ยวชม ช็อปปิ้ง ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ เป็นหลัก ถึงประมาณ 70-80% และส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้า กางเกง กระเป๋า รองเท้า ค่าใช้จ่ายต่อรายประมาณ 2,000-3,000 […]
ปกข่าวแบบขนาด เฟสนายก [recovered] 01