เคาะแล้ววันนี้ปรับเวลาเคอร์ฟิว เริ่ม 17 พ.ค. 2563
15 พฤษภาคม 2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมประชุม ศบค.ชุดใหญ่
ล่าสุดที่ประชุมมีมติให้เลื่อนเวลาเคอร์ฟิว เป็นเวลา 23.00 น. – 04.00 น. และอนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยให้เปิดเวลา 10.00 น. ปิดห้างในเวลา 20.00 น. และร้านขายวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ โดยต้องยึดมาตรการการตรวจคัดกรอง ผู้เข้ารับบริการ ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ขณะที่สนามกีฬา ก็สามารถเปิดให้บริการได้ ในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้ ยกเว้นการแข่งขันกีฬาประเภททีม ขณะที่มาตรการการเปิดน่านฟ้า ยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติ
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ในที่ประชุมนายกฯเป็นห่วงสถานการณ์ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต่ำ เพราะถ้าเราประมาทเมื่อไร อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมไปแล้ว และมีผู้ติดเชื้อจากการผ่อนคลายดังกล่าวก็ต้องนำมาพิจารณาอีกที
ศบค.เห็นชอบลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 04.00 น. ในส่วนของห้างสรรพสินค้าอาจจะต้องมีการปรับเวลาในการเปิดและปิด มาเป็น 10.00น. ถึง 20.00 น.เพื่อให้พนักงานมีเวลาเตรียมตัว
นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมอีกหลายประเภท เช่น กีฬาบางประเภทที่ไม่ได้เล่นเป็นทีม และมีคนจำนวนมาก แต่กีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล และบาสเกตบอล ยังไม่ได้มีการผ่อนคลายให้ เพราะเป็นกีฬาที่มีผู้แข่งขันเกิน 3-5 คน ขณะเดียวกัน ยังมีการผ่อนปรนสถานเสริมความงามบางประเภท ซึ่งรายละเอียดต่างๆให้รอการแถลงจากโฆษก ศบค.
เมื่อมองถึงภาพรวมสถานการณ์โควิดในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นในหลักหน่วยเท่านั้น และภาคใต้บ้านเราที่วันนี้ไม่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น นับว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลสามารถที่จะปรับนโยบายผ่อนปรนบางส่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยได้ออกมาทำมาหากิน ตามวิถีชีวิตปกติในรูปแบบ New Normal
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิงข้อมูลจาก: ศูนย์ข้อมูล COVID-19
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์