กระทรวงสาธารณสุข เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 พื้นที่ท่องเที่ยว ภูเก็ต – สุมย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่มีการปรับมาตรการการจัดกิจกรรมสงกรานต์ แม้จะพบการติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่ ทั้งในกลุ่มโรงงานและที่พักคนงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความสับสัน แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย หากเกิดความจำเป็นสามารถปรับเปลี่ยนได้
สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับมาล่าสุด จำนวน 8 แสนโดส ยังคงจัดสรรให้กลุ่มเสี่ยง และจังหวัดท่องเที่ยว โดยแบ่งไปที่จังหวัดภูเก็ต 1 แสนโดส เกาะสมุย 5 หมื่นโดส และจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้เห็นผลชัดเจน ว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง โดยยึดตามหลักระบาดวิทยา เพราะหากต้องการให้เห็นความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจต้องจัดวัคซีนไปยังพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มแพทย์เท่านั้น โดยกระทรวงสาธารณสุข จะสรุปแผนการจัดสรรวัคซีนอย่างชัดเจน ขอประชาชนอย่ากังวล วัคซีนมีเพียวพอ หากมีการเจรจาจนได้วัคซีนเพิ่มในเดือนเมษายน ไทยจะได้รับวัคซีนมากกว่า 1 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้วัคซีนของ 2 บริษัทเพียงพอแล้ว
ส่วนข้อเสนอภาคเอกชน ในจังหวัดภูเก็ต ร้องขอวัคซีน 9 แสนโดส เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่คาดหวังให้เกิดขึ้นภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายอนุทิน เห็นว่า มีความเป็นไปได้ ในการจัดสรรวัคซีนตามที่ร้องขอ เนื่องจากวัคซีนที่ผลิตในไทย ได้รับความยืนยันจะได้รับการส่งมอบในเดือนมิถุนายน 5 ล้านโดส จากนั้นเดือนละ 10 ล้านโดส ดังนั้นความต้องการของภูเก็ต 9 แสนโดสไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทั้งสามารถจัดสรรให้กับประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนได้ด้วย
ซึ่งการหารือกับเสนาธิการทหารบก ในการจัดสรรวัคซีนสำหรับกองทัพได้ถึง 1 ล้านโดส เพื่อนำไปบริหารจัดการเอง เพราะมีวัคซีนเพียงพอแต่ไม่สามารถระบุได้ว่า จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ทันวันที่ 1 กรกฎาคมหรือไม่ เนื่องจากการฉีดวัคซีนต้องใช้ระยะเวลาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพียงแต่แนวโน้มของสถานการณ์ต้องดีขึ้น ผู้ป่วยน้อยลง อาการรุนแรงไม่มี การแพร่ระบาดน้อยลง พร้อมย้ำสิ่งที่คาดหวังไม่ใช่การไม่พบผู้ติดเชื้อ เพียงแต่ผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลง ทุกอย่างก็จะสามารถกลับมาได้