จังหวัดสงขลานำรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในกลุ่มเสี่ยงครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ

จังหวัดสงขลานำรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในกลุ่มเสี่ยงครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ
   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยสำหรับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ให้จังหวัดสงขลา เพื่อนำไปใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่สำหรับค้นหา หรือ คัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเชิงรุก เตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระลอกที่ 2 ที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมของบุคลากรด้านสาธารณสุขให้มีทักษะ เพื่อรับมือกับการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉิน
   นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่จังหวัดสงขลาได้รับพระราชทาน รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงร่วมกันจัดทำโครงการการตรวจหาโรคติดเชื้อโดยรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ในพื้นที่อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา ในระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2563 โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการตรวจ ประกอบด้วย ผู้ขับรถที่เดินทางข้ามชายแดน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย กลุ่มชาวต่างด้าว ผู้ต้องขังในเรือนจำ และประชาชนในจังหวัดสงขลาที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
จังหวัดสงขลานำรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในกลุ่มเสี่ยงครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ
จังหวัดสงขลานำรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในกลุ่มเสี่ยงครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ
จังหวัดสงขลานำรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในกลุ่มเสี่ยงครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ
  ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดสงขลายังปลอดผู้ติดเชื้อ จังหวัดสงขลายังคงวางมาตรการเข้มในการเฝ้าระวังป้องกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังใน 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย กลุ่มผู้ขับรถที่เดินทางข้ามชายแดนระหว่าง ไทยกับมาเลเซีย กลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีระบบการกักตัว หรือ state Quarantine และกลุ่มชาวต่างชาติที่เป็นแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบเข้ามาในประเทศ ในอนาคต หากมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มีการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง ทั้งการกักตัว และการเพาะเชื้อ 2 ครั้ง ซึ่งการได้รับการเพาะเชื้อและกักตัว จะเป็นตัวการันตีว่าปลอดเชื้อ ขณะเดียวกันจะต้องมีการเฝ้าระวังและตรวจตราโดยอาศัยกลไกของ อสม. ความร่วมมือของประชน และการร่วมบูรณาการของทุกหน่วยงาน
ทั้งนี้ การออกคัดกรองในช่วงวันที่ 8-9 ตุลาคม นี้ เป็นการปฏิบัติการเชิงรุก ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยสำหรับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ให้จังหวัดสงขลา ทำให้การปฏิบัติการในการดูแลประชาชนสะดวก เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
120380302 3409425119137696 1903366121230494642 n HATYAITODAY
120409169 3409425435804331 2686731824829535088 o HATYAITODAY120434164 3409425285804346 1763567829868794784 o HATYAITODAY 120486339 3409425522470989 1638028832093372482 o HATYAITODAY 120568742 3409425542470987 5621439410871665684 o HATYAITODAY

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

Next Post

สถานเอกอัครราชทูตฯ มาเลเซียประกาสเตือนคนไทย หลังมาเลเซียพบเชื้อโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น

Sat Oct 3 , 2020
สถานเอกอัครราชทูตฯ มาเลเซียประกาสเตือนคนไทย หลังมาเลเซียพบเชื้อโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น   ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในมาเลเซียในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทวีความรุนแรงมากขึ้น มีการตรวจพบเชื้อ COVID-19 แพร่กระจายไปยังทุกรัฐในมาเลเซีย โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยมากกว่าวันละ 100 ราย นับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 63 เป็นต้นมา โดยสถิติล่าสุดเมื่อ 2 ต.ค. 2563 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 287 ราย (ส่วนใหญ่เป็นกรณีในรัฐซาบาห์ และรัฐเคดะห์) ซึ่งนับเป็นจำนวนมากที่สุดตั้งแต่เริ่มการบังคับใช้มาตรการ RMCO เมื่อ 9 มิ.ย. 2563 สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนปฏิบัติตามมาตรการของทางการมาเลเซีย และแนวปฏิบัติ (SOP) ที่มาเลเซียได้ออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยให้คงการรักษาระยะห่างระหว่างกัน (social distancing) พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยโดยสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ภายนอกที่พัก และล้างมือด้วยสบู่หรือเจลล้างมือสม่ำเสมอ ทั้งนี้ หากมีรายงานข่าวหรือข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตฯ […]
สถานเอกอัครราชทูตฯ มาเลเซียประกาสเตือนคนไทย หลังมาเลเซียพบเชื้อโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น