ด่วน!! คำสั่งไทย-มาเลย์ประกาศปิดด่านชายแดน
จังหวัดสงขลา ประกาศระงับการใช้ช่องทางเข้าออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรตลอดแนวด่านชายแดนจังหวัดสงขลาเป็นการชั่วคราว ยกเว้นด่านสะเดาที่อนุญาตให้รถขนส่งสินค้าผ่าน แต่ต้องคัดกรองพนักงานขับรถ อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ออกประกาศระงับการใช้ช่องทางด่านพรมแดน คือ ด่านประกอบ อำเภอนาทวี ด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ส่วน ด่านสะเดาอนุญาตเฉพาะรถสินค้า เนื่องจากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ 2563 พบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพื่อให้การควบคุมโรคติดต่ออันตรายของจังหวัดสงขลาไม่ให้แพร่ระบาดขยายไปในวงกว้างจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Corona virus Disease: COVID-19) ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และมติจากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 เรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการพิจารณาการเปิด ระงับ หรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ
จังหวัดสงขลาจึงมีคำสั่งระงับการใช้ช่องทางและจุดผ่านแดนประกอบด้วย
1. จุดผ่านแดนถาวรด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตรงข้ามด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย
2. จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ตรงข้ามบ้านดุเรียนบุรง อำเภอปาดังเตอรับ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย และระงับการ เข้า-ออก ของบุคคลทุกสัญชาติตลอดจนยานพาหนะ สิ่งของตลอดแนวชายแดนจังหวัดสงขลา ยกเว้นการ เข้า-ออก เพื่อการขนส่งสินค้า พร้อมด้วยคนประจำยานพาหนะขนส่งสินค้าจำนวนคันละ 1 คน ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ณ จุดผ่านแดนถาวรด่านสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตรงข้ามด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
22 มี.ค. 63
ส่วนฝั่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประกาศด่วน กรณีการปิดด่านผ่านแดนทางบก ไทย – มาเลเซีย ชั่วคราว เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 เนื้อหาระบุว่า
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ขอเรียนเรื่องประกาศเพิ่มเติมกรณีการปิดด่าน ผ่านแดนทางบก ไทย – มาเลเซีย ชั่วคราวของทางฝั่งไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ดังนี้
1. ผู้ว่าราชการทั้ง 4 จังหวัด อันได้แก่ จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ประกาศเพิ่มเติมกรณีปิดด่านผ่านแดนทางบก (รวมถึงท่าเรือ) ระหว่างไทย – มาเลเซีย โดยให้ระงับการเดินทาง เข้า – ออกไทยของบุคคลทุกสัญชาติ รวมถึงคนไทยในมาเลเซียที่จะเดินทางกลับประเทศไทย (ยกเว้นรถบรรทุก ขนส่งสินค้าที่เข้า – ออกได้เฉพาะบางจุด) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทยสามารถเดินทางกลับได้ทางอากาศเท่านั้น
2. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้กำหนดให้ผู้โดยสารสัญชาติไทย ที่เดินทางทางอากาศไปยังประเทศไทยต้องแสดงเอกสารก่อนขึ้นเครื่องบิน ดังนี้
1.ใบรับรองแพทย์ ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) ซึ่งสามารถเข้าไปติดต่อกับทางโรงพยาบาลหรือคลินิกต่างๆ ในมาเลเซียรวมทั้งที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ ทั้ง 2 แห่ง (KLIA1 และ KLIA2) ให้ออกใบดังกล่าวได้
2. หนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศ ออกให้คนไทยในมาเลเซียที่ต้องการเดินทางกลับไทยทางอากาศ โดยสามารถ ขอหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผ่านบริการออนไลน์ ได้ที่ https://bit.ly/3b9G7zw ทั้งนี้ท่านต้องใช้ใบรับรองแพทย์ในการกรอกเพื่อขอเอกสารรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ
3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เพิ่มช่องทางการติดต่อสำหรับกรณีฉุกเฉินในช่วงการแพร่ระบาด ของ COVID-19 โดยสามารถติดต่อได้ที่สาย hotline ชั่วคราว โทรมือถือหมายเลข 017 700 4822 หรือ หมายเลข 011 1172 1963 หรือหมายเลข 011 1160 8379
ประกาศ ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2563
ภาพ: hatyaitodaynews
อ้างอิง: กรุงเทพธุรกิจ