สธ.สงขลา เฝ้าระวังสอบสวนโรคกลุ่มคลัสเตอร์สัมผัสเสี่ยง ผู้เสียชีวิตโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
วันที่ 18 ม.ค. 65 จากกรณีมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียชีวิต ซึ่งนับเป็นรายแรกในประเทศนั้น ข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยเป็นหญิงไทย อายุ 86 ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีประวัติรับวัคซีนไฟเซอร์ มา 2 เข็ม เป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือโรคอัลไซเมอร์ มีประวัติการสัมผัสเสี่ยงกับหลานซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน (เดินทางกลับมาจากจังหวัดภูเก็ต) เข้ารับการรักษาที่ รพ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 และเสียชีวิต เมื่อ 12 ม.ค. 65 และส่งตรวจยืนยันสายพันธุ์เชื้อฯ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ในวันดังกล่าว ผลการตรวจยืนยันสายพันธุ์โอมิครอน เมื่อวันที่ 13 ม.ค.65
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ร่วมกับเครือข่ายบริการสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังสอบสวนโรค ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฯ ในกลุ่มคลัสเตอร์ดังกล่าว รวม ทั้งสิ้น 27 คน (รวมผู้ป่วยเสียชีวิตฯและหลาน) และค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงกับผู้ป่วยฯ ดังกล่าว มีผู้สัมผัสเสี่ยงรวมทั้งบุคคลในครอบครัว รับการตรวจหาเชื้อแล้ว จำนวน 25 คน พบผลบวก จำนวน 10 คน โดยผู้สัมผัสเสี่ยงที่พบผลบวก 10 คน พบว่าไม่มีอาการ 1 คน อีก 10 คน มีอาการเพียงเล็กน้อย(คัดจมูก ไอ) โดยทั้ง 11 คน (รวมหลานฯ) ได้เข้ารับการกักรักษาตัวที่โรงพยาบาลฯ และ Hospitel ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว พร้อมทั้ง ติดตามตรวจหาเชื้อซ้ำฯ และเฝ้าระวังอาการต่อเนื่อง สำหรับในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงที่ไม่พบเชื้อ และให้กักตัวสังเกตอาการที่บ้าน ( HQ : Home Quarantine ) เป็นระยะเวลา 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่และ อสม.ในพื้นที่ ติดตามสังเกตอาการต่อเนื่อง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา จึงขอย้ำเตือนให้ประชาชนได้มีการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง โดยผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเปราะบาง อาจจะเป็นผู้ดูแลและลูกหลาน จำเป็นต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง ล้างมือ และหลีกเลี่ยงการกอดสัมผัสกับผู้ป่วยฯ และในระยะนี้ ควรพากลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้สูงอายุและป่วยเรื้องรัง ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื่องด้วย
อ้างอิง : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา