ประเทศมาเลเซียประกาศปิดด่านกายูฮิตัม 14 วัน หลังโควิด-19 ระบาดหนัก คนไทยไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

ประเทศมาเลเซียประกาศปิดด่านกายูฮิตัม 14 วัน หลังโควิด-19 ระบาดหนัก คนไทยไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 63 บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ต้องปิดรับคนไทยในประเทศมาเลเซียเดินทางกลับประเทศชั่วคราวตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 กันยายน 2563 เป็นเวลา 14 วัน และสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมาเลเซียข้อมูล ณ วันที่ 11 กันยายน 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 182 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 9,810 คน กำลังรักษา 105 คน รักษาหายแล้ว 9,181 คน และเสียชีวิต 128 คน

เป็นผลมาจากทางการมาเลเซียได้ออกประกาศห้ามมิให้บุคคลใดเดินทางเข้าออกผ่านด่านบูกิตกายูฮิตัม เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นด่านที่ตั้งอยู่ในรัฐเคดาห์ตรงข้ามกับด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 12 กันยายนถึง 25 กันยายน 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากในรัฐเคดาห์ขณะนี้พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากที่สุดในมาเลเซียกว่า 100 คน ทางการมาเลเซียจึงต้องระงับการเดินทางเข้า-ออกประเทศทางด่านบูกิตกายูฮิตัมรัฐเคดาห์ชั่วคราว

โดยบรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดาในวันนี้ทางการมาเลเซียอนุญาตให้คนไทยจำนวน 5 คน เป็นชาย 2 คนหญิง 3 คน ซึ่งถูกจับกุมอยู่ในประเทศมาเลเซียและพ้นโทษเดินทางกลับเป็นชุดสุดท้าย โดย ตม.มาเลเซียมาส่งที่ด่านพรมแดนสะเดาทั้งนี้ในส่วนของการขนส่งระหว่างประเทศไทยมาเลเซียทางดานพรมแดนสะเดายังคงดำเนินการได้ตามปกติ ห้ามเฉพาะการเดินทางเข้าออกของบุคคลเท่านั้น ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยในมาเลเซีย ขอให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยทางบก ระหว่างวันที่ 12-25 กันยายนนี้ ไปลงทะเบียนขอหนังสือรับรองการเดินทางโดยเลือกด่านพรมแดนอื่น ได้แก่ ด่านเบตง จ.ยะลา หรือด่านสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หรือด่านวังประจัน จ.สตูลแทนชั่วคราว

อย่างไรก็ตามสามารถลงทะเบียนขอหนังสือรับรองการเดินทาง ผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ https://dcaregistration.mfa.go.th และขอให้ดำเนินการขอใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า ‘fit to travel’ ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และกรุณาเดินทางให้ถึงด่านก่อนเที่ยงวันของวันที่ระบุในหนังสือรับรองการเดินทางซึ่งเป็นไปตามวันที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ และกรุณาเตรียมเอกสารหนังสือรับรอง ฯ ใบรับรองแพทย์ และหนังสือเดินทางให้พร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด้วย

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิงข้อมูลจาก : Royal Thai Embassy, Kuala Lumpur

• Facebook
• Twitter
• Line